โครงร่างตำนานคน : ปิยบุตร แสงกนกกุล ก้าวสำคัญการเมืองไทย

ปิยบุตร แสงกนกกุล

ช่วงที่ผ่านมา “นักการเมือง” ตกอยู่ในสภาพกลุ่มบุคคลที่มี “ภาพไปในทางลบ” ค่อนข้างสูง

แม้ว่าทางหนึ่งอาจจะเป็นอย่างที่พยายามชี้แจงกันว่า เป็นเรื่องของความพยายามสร้างเรื่องราวให้ประชาชนเกลียดชังนักการเมือง

แต่อีกทางหนึ่งต้องยอมรับว่า “พฤติกรรมของนักการเมืองเอง” ที่ “ส่วนหนึ่ง” เป็นเงื่อนไขให้ประชาชนเกิดความรู้สึกตามที่ถูกกล่าวหา

“ไร้คุณภาพด้านความรู้ ความสามารถ” รวมถึงเป็น “พวกที่เห็นโอกาสที่จะเข้ามาแสวงหาประโยชน์ให้    ส่วนตัวและพวกพ้อง” หรือ “ขาดจิตสำนึกที่ดีงามต่อส่วนรวม”

Advertisement

ก่อนหน้านั้นพูดกันว่าต้นเหตุที่ประชาธิปไตยไทยเดินไปไม่ได้ เพราะ “ประชาชนยังเลือกนักการเมืองเหล่านี้เข้ามา” เป็นการเลือกอย่างซ้ำซาก ซ้ำอยู่ในตัวบุคคลเดิมๆ ไม่กี่กลุ่ม “นักการเมือง” กลายเป็นการสืบทอดของตระกูล จังหวัดไหนเลือกตระกูลไหนก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่เรื่อยไป

ทำให้การเมืองไม่เปลี่ยนแปลง และก่อสภาวะ “การเมืองน้ำเน่า”

มีการเรียกร้องให้กากติกาให้คนใหม่ที่มีคุณภาพมากกว่าเข้ามาทำงานการเมืองให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนถ่ายเทเอาคนคุณภาพใหม่เข้ามาทดแทน ด้วยความหวังว่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น

Advertisement

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แม้หลายเรื่องจะถูกกล่าวหาในทางเลวร้าย ไม่เป็นธรรม ตั้งแต่กติกาที่เอารัด      เอาเปรียบ และกลไกการจัดการที่เลือกข้าง

ทว่าท่ามกลางข้อกล่าวหา พร้อมการอ้างหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดอยู่ไม่น้อยถึงการเอารัดเอาเปรียบเหล่านั้น กลับมีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือ “พรรคอนาคตใหม่” ได้รับคะแนนเลือกเข้ามามากอย่างเหนือความคาดหมาย

“อนาคตใหม่” เป็นพรรคที่ไม่มีนักการเมืองหน้าเก่า และกลไกฐานเสียงเดิมอยู่เลย

คนรุ่นใหม่ถอดด้ามลงสนามการเมืองครั้งแรกทั้งหมด และหาเสียงโดยไม่อิงกับวิธีการแบบเก่า

ผลการเลือกตั้งดังกล่าวนี้ก่อให้เกิดความหวังครั้งใหญ่ว่า “การเมืองเปลี่ยนแปลงได้”

“นักการเมืองหน้าใหม่” มีโอกาสชัดเจนที่จะเข้ามามีบทบาท อย่างที่มีเสียงเรียกร้องต้องการก่อนหน้านั้น

หากเป็นพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายได้ตรงใจ และหาวิธีการเข้าถึงประชาชนได้สำเร็จ

แต่แล้ว “ความหวัง” นั้นกลับวูบลง เมื่อเกิดการจัดการกับ “ผู้นำพรรคอนาคตใหม่” ด้วยบางข้อหาที่ทำให้อาจจะต้องพ้นจากเวทีการเมืองไป

ทั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล กลายเป็นผู้ต้องหา แทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภา

การแสดงออกล่าสุดของ “ปิยบุตร” ต่อการถูกดำเนินคดีว่า เป็นนักวิชาการมา 16 ปี

“ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานขององค์กรต่างๆ มาตลอด ไม่เคยถูกดำเนินคดี แต่เมื่อก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่มาไม่ถึงปีกลับถูกแจ้งความจำนวนมาก”

คล้ายจะบอกว่า “การเป็นนักการเมือง” ทำให้มีปัญหา

นั่นหมายถึง เสียงเรียกร้อง “นักการเมืองหน้าใหม่” ที่มีคุณภาพต่างจากเดิมนั้น ที่สุดแล้วดูจะเป็น “ข้ออ้างเพื่อโจมตีนักการเมือง” ให้เกิดภาพของความเลวร้าย เพื่อให้เกิดความเกลียดชังในความรู้สึกของประชาชนมากกว่า

การต่อสู้ทางการเมือง ไม่เพียงไม่ส่งเสริมนักการเมืองใหม่ๆ อย่างที่พยายามส่งเสียงเรียกร้องกันเท่านั้น

แต่ยังพยายามสร้างอุปสรรคกีดกันนักการเมืองหน้าใหม่ๆ ที่จะทำท่าว่าจะประสบความสำเร็จเกินหน้าในเวทีการเมืองอีกด้วย

สภาพการณ์เช่นนี้ ไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมืองไทย และโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้ามาดูแล     รับผิดชอบอนาคตของคนรุ่นตัวเองและรุ่นหลัง

และเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ดูเหมือนคนรุ่นนี้จ้องหาทางฝ่าฟัน ถากถางให้เห็นทางแห่งอนาคตกันเอง

เรื่องราวทั้งหมดกำลังพิสูจน์ว่า พลังของคนรุ่นใหม่จะมีเพียงพอที่จะก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือไม่

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image