วันนี้ (19 เม.ย.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ “หมออ๋อง” อายุ 38 ปี ว่าที่ส.ส.เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง โดยล้มแชมป์เก่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากพรรคประชาธิปัตย์
ท่ามกลางความแปลกใจของคนในจังหวัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
นายปดิพัทธ์ เปิดเผยกับ “มติชนออนไลน์” โดยระบุว่า การตัดสินใจเล่นการเมือง เนื่องจากเห็นปัญหาการเมืองไทยช่วง10 ปีที่ผ่านมาถึงทางตัน ถ้าไม่มีพรรคการเมืองที่สามารถสร้างความหวัง สร้างสิ่งใหม่เกิดขึ้น การเมืองไทยก็จะกลับสู่วังวนความขัดแย้ง เห็นการสืบทอดอำนาจ คสช. หลังจาก คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจทำให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับตนไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เห็นการศึกษา บ้านเมืองที่มีการพัฒนาเพราะระบบที่ดี จึงมองว่า ถ้าแก้ไขปัญหาการเมืองบ้านเมืองน่าจะดีขึ้น
หลังจากตัดสินใจลงสนามการเมืองเต็มตัว “หมออ๋อง” บอกว่า เห็นกระแสการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เบื่ออำนาจ ต้องการล้มล้างยักษ์นักการเมืองเก่า ซึ่งกลยุทธที่ใช้ในการหาเสียงที่ทำให้คะแนนมากล้นเกินความคาดหมาย จนชนะ แชมป์เก่าหลายสมัยอย่าง นพ.วรงค์ คือ เน้นการหาเสียงแบบพรรคเล็กๆ โดยเข้าหากลุ่มเป้าหมายโดยตรงด้วยตัวเอง เดินพบประชาชนทุกชุมชน หมู่บ้าน ตำบล สถาบันการศึกษา กลุ่มเกษตร แม่ค้า โดยไม่หยุดหาเสียงเลยแม้แต่วันเดียว
“เพราะเชื่อว่าเวลาการหาเสียงทุกวันสำคัญ ส่วนการหาเสียงจะเน้นอธิบายกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเรื่อง ไม่พูดทั้งหมด เน้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายเลย อย่างเกษตรกร ก็พูดนโยบายการเกษตรของพรรค แนวทางการพัฒนา การช่วยเหลือ กลุ่มการศึกษา คนรุ่นใหม่ เพราะคนเหล่านี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาบ้านเมืองในอนาคต เราจะขึ้นรถแห่เน้นพูดคุยนโยบายมาก เน้นความสุภาพ ความเป็นคนรุ่นใหม่ ที่อยากเห็นประเทศมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ” นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งตนไม่มีเงินมหาศาลในการจ้างรถแห่ ทำป้ายหาเสียง จึงใช้ช่องทางเพจเฟซบุ๊กและยูทูปในการหาเสียง ทำให้ไม่มีต้นทุน ทุ่มทุนในการหาเสียงน้อยมาก เหมือนเช่นพรรคอื่นๆ ต้องให้เครดิตพรรคอนาคตใหม่ที่หัวหน้าพรรคมีนโยบายชัดเจน การปราศรัย ดีเบต พรรคจึงโดดเด่นส่งผลดีถึงทีมผู้สมัคร ส.ส.ในหลายจังหวัดได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
เกาะติดการเมือง กับ Line@มติชนการเมือง
