| ผู้เขียน | หน้า 2 มติชน 20 เมษายน 2562 |
|---|
หมายเหตุ…นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค นายอภิวัฒน์ อากาศฤกษ์ นายทะเบียนพรรค นายบุญเลิศ เหลียงกอบกิจ กรรมการบริหารพรรค และนายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวกรณีที่สมาชิกพรรค ศม.ยื่นร้องให้ยุบพรรคตัวเอง เหตุเพราะมีนายทุนครอบงำพรรค ที่ทำการพรรค ศม. ถนนนราธิวาสราชนครินทร์
———–
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
——–
ช่วงวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา มีข่าวมากมาย ซึ่งผมได้เขียนข้อความตอบกลับไปหมดแล้ว แต่มาเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ศม.ไปยื่นยุบพรรค ผมก็ได้ปรึกษากับคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะทำอย่างไร
ผมขอชี้แจงว่า 1.สถานภาพของผมเป็นหัวหน้าพรรค ศม. 2.นายสุภดิช คือ คนก่อตั้งพรรค และเป็นหัวหน้าพรรคคนแรกของพรรคนี้ ต่อมานายสุภดิชก็มาชวนผมเข้าร่วมพรรคโดยให้ข้อเสนอว่าจะให้อิสระเต็มที่ในการเขียนนโยบาย และจะเสนอชื่อผมเป็นว่าที่นายกฯเพียงคนเดียว รวมถึงให้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งความจริงแล้วผมไม่ได้อยากเป็นหัวหน้าพรรค เพราะผมผ่านมาหลายพรรคผมก็ไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้า แต่พรรค ศม.ก็บอกว่าเวลาดีเบต หรือหาเสียงหากเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่ต้องอธิบายอะไรกันยาว
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเข้ามานำพรรคผมคุยกับนายสุภดิชแล้วว่า การบริหารจัดการในพรรคขอแบ่งเป็นปีกซ้าย และปีกขวา โดยปีกขวาคือการร่างนโยบายระบบเศรษฐกิจใหม่ การออกไปพูดกับสาธารณชน การออกคลิป ฯลฯ ผมขออยู่ส่วนนี้ แต่การบริหารกิจการภายในหรือปีกซ้าย เช่น การรับสมัครสมาชิก การคัดเลือก ส.ส. มอบให้นายสุภดิชเป็นคนดำเนินการ เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เปิดโทรทัศน์แล้วเห็นข่าวก็ปรึกษากัน เพื่อมาคุยกับสื่อให้รับทราบ ซึ่งคนที่จะอธิบายได้ดีที่สุดคือ นายสุภดิช แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าพรรค ผมต้องรับผิดชอบ
00 พรรคคิดว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ที่มีการยื่นร้องยุบพรรคตัวเอง
ไม่ทราบ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปสืบสาวราวเรื่อง เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต.
00 จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่
ไม่ร่วม ชัดเจนไหมครับ ผมออกแถลงการณ์ชัดเจนตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนการเลือกตั้ง และวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ก็ได้ออกคำชี้แจงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่าไม่ได้เข้าร่วมกับพรรค พปชร. เพราะผมไม่ได้ชอบที่แฮชแท็กต่างๆ ของผมและพรรค ศม.ขึ้นตามโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีความรังเกียจ โกรธ พรรค พปชร. เพราะเป็นคนรู้จัก เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันในวงการ แต่อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน คิดไม่เหมือนกัน วันนี้ชัดเจนว่าไม่มีงูเห่าใดๆ ที่วันนั้นผมไม่ได้เดินทางไปลงสัตยาบัน เพราะผมติดนัดกับผู้ใหญ่ กกต. ว่าผมจะไปขอดูคะแนนดิบ แต่ทางคณะที่ลงสัตยาบันเขานัดมาตอนกลางคืน ผมกลัวเสียผู้ใหญ่ เพราะนัดไว้แล้ว ก็ต้องไปพบกับ กกต.ก่อน
00 พรรค ศม.ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ ว่าจะอยู่กับทางฝั่งของพรรคเพื่อไทย (พท.)
ชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นจนจบ ผมไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน ไม่รู้สื่อไปฟังข่าวที่ไหนมาแล้วมาถามผม สมมุติผลการเลือกตั้งออกมาได้ 6 คน เรายืนยันว่าเราจะอยู่ในจุดที่เราบอก ไม่เข้าร่วมกับพรรค พปชร.
00 สุดท้ายแล้วพรรค ศม.จะโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯต่อไปหรือไม่
ผมพยายามเลี่ยงไม่เอ่ยชื่อบุคคล แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าพรรค พปชร.เสนอชื่อใครเป็นนายกฯ แล้วผมบอกว่าผมจะไม่เข้าร่วมกับพรรค พปชร. แล้วผมจะไปโหวตให้เขาได้อย่างไร “พล.อ.ประยุทธ์ครับ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อท่านเลยนะครับ” พรรค ศม.จะอยู่ด้วยกันทั้ง 6-7 คน
สุภดิช อากาศฤกษ์
————
พรรค ศม.ตั้งขึ้นมาจากเพื่อนๆ ที่สนิทกัน โดยค่าใช้จ่ายบอกตามตรงว่าช่วยๆ กันออก ส่วนอุดมการณ์ของพรรคคือ 1.เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.เรายึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต 3.เราตั้งใจที่จะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ซึ่งนายมิ่งขวัญได้พิสูจน์ตัวเองตลอดมาตั้งแต่อดีตว่ามีความจงรักภักดี มีประวัติการทำงานทั้งภาคนัฐ และเอกชนว่ามีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เราจึงเชิญนายมิ่งขวัญมา ดังนั้นนายมิ่งขวัญจะเห็นว่าทุกอย่างเราเน้นไปที่ความซื่อสัตย์สุจริต การดำเนินการของพรรค ศม.เป็นวิธีการใหม่ๆ ป้ายหาเสียงพรรคแทบไม่มีเลย เงินสนับสนุนพรรคก็แทบไม่มีเลย
พรรค ศม.ไม่มีการจัดปราศรัยเลยเพราะว่าใช้เงินมาก ไม่มีรถหาเสียงเลย แต่เวลาหาเสียงเราหาเสียงด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน และเราก็ใช้เวทีที่ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่กลายเป็นว่าวันสงกรานต์ที่ผ่านมาแทบไม่ได้พักผ่อนกันเลย เพราะต้องมานั่งประชุม และเตรียมการเรื่องต่างๆที่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับเรา ซึ่งพรรค ศม.ยืนยันว่าพรรค ศม.มีเอกภาพ ดำเนินการทางการเมืองโดยยึดคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ และรักษาคำพูด ดังนั้นผมขอพูดให้ชัดเจนว่า พรรค ศม.ไม่มีงูเห่าในว่าที่ ส.ส.ของพรรค ศม.
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคไปยื่นร้อง กกต.ระบุว่านายมิ่งขวัญไม่ได้จัดให้มีการประชุมพรรค ศม. ประชุม ส.ส.และที่นายมิ่งขวัญไม่สามารถจัดการประชุมได้เนื่องจากมีบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเข้ามาครอบงำ บงการ และชี้นำพรรค ผมเรียนว่าพรรค ศม.มีการจัดประชุม ส.ส. มีการอบรมภาค ที่มีการไปยืนต่อ กกต.นั้น ไม่มีมูลความจริงเลย ส่วนการกล่าวอ้างว่ามีการครอบงำพรรคนั้น ผมขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงเพราะผู้ที่ถูกอ้างนั้นเป็นเพื่อนสนิทของพวกผม และผู้ที่ถูกกล่าวอ้างก็เป็นสมาชิกพรรคด้วย นอกจากนั้น พี่ชายของผู้ที่ถูกกล่าวอ้างก็เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคด้วย ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มอบเสียง 485,644 เสียงให้กับพรรค ศม. ผมถือว่าเสียงเหล่านี้คือ เสียงบริสุทธิ์
00 ได้คุยกับคนที่ไปยื่นร้องต่อ กกต.แล้วหรือยัง
ไม่มีการคุยใดๆ ครับ
00 จะดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่
จะปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรค ศม.เพราะเขาได้ทำผิดข้อบังคับพรรค ขอดูข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป
00 มีรอยร้าวในพรรคหรือไม่
ไม่มีรอยร้าวใดๆ เลย
00 สรุปแล้วนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็นสมาชิกพรรคหรือไม่
นายสุทัศน์ เป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2562 แล้ว
ประพันธ์ เอี่ยมศิริ
———–
หลังจากมีการยื่นเรื่องต่อ กกต.มีสมาชิกของพรรค ศม. เดินทางเข้าไปยื่นขอถอนตัวจากการเป็นพยานแล้ว เนื่องจากไม่ทราบว่าทีมงานที่ไปร้องเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา จะไปยื่นร้องเพื่อขอยุบพรรคตัวเอง และเจ้าของบ้านที่อยู่ในเอกสารที่นำไปยื่นร้องต่อ กกต.ก็ได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
———–
