เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวถึงการจดแจ้งการครอบครองกัญชาที่จะหมดเวลาในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ว่า จะพบว่าขณะนี้ประชาชนไม่ค่อยไปยื่นเรื่องจดแจ้งดังกล่าว เพราะไม่ทราบว่าจะไปยื่นเรื่องที่ส่วนราชการใด และที่สำคัญคือกลัวว่าเมื่อไปจดแจ้งแล้วจะกลายเป็นข้อมูลให้ภาครัฐได้รับรู้ว่ามีการครอบครองกัญชาอยู่ จะกลายเป็นผู้เสพหรือเปล่า จะติดแบล๊กลิสต์หรือไม่ อาจจะมีผลอะไรทางกฎหมายตามหลังมา ในเมื่อชีวิตสำคัญกว่าก็ยอมจะไม่จดแจ้ง เพื่อสามารถใช้กัญชารักษาตัวเองต่อไป ทั้งนี้ ระยะเวลาในการจดแจ้งการครอบครองกัญชาและสารสกัดจากกัญชา หรือที่เรียกว่าเป็นช่วงนิรโทษกรรม สำหรับผู้ครอบครองกัญชานั้นจะหมดเวลาภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน คำถามก็คือ หลังจาก 19 พฤษภาคมนี้แล้วจะเป็นอย่างไร เห็นว่าคนเรือนหมื่นเรือนแสนมาที่งานพันธุ์บุรีรัมย์ เพื่อต้องการเดินเข้าสู่ระบบ มาจดแจ้งจะได้มีไว้ในครอบครอง เพื่อใช้เพื่อตัวเอง ไม่ได้เอาไปทำการค้า แล้วคนเหล่านี้จะรักษาตัวเอง จะทำอย่างไรต่อไป กระบวนการทางกฎหมายจะทำอย่างไรต่อไป นี่คือปัญหาใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ามีคนหนึ่งที่ทราบ นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ด้วยการออกมาตรา 44 เพื่อคุ้มครองคนที่จำเป็นต้องใช้ยากัญชาเพื่อรักษาชีวิต อย่ารอให้ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม แล้วไม่มีคำตอบว่าจะเดินหน้าอย่างไร
“ผมเชื่อว่ามีคนหนึ่งตอบได้คือลุงตู่ ใช้ ม.44 ปลดล็อกกัญชาให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อใช้รักษาโรคและเป็นพืชเศรษฐกิจต่อไป เชื่อว่าผู้ป่วยที่ใช้กัญชาในการรักษา จะแซ่ซ้องสรรเสริญ เรายกมือท่วมหัวกันทุกคนเลย ถ้าท่านกล้าทำเรื่องนี้เพื่อผู้ป่วย จะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ มากกว่าที่ท่านได้ทำบุญกฐิน ทำบุญผ้าป่ามาตลอดชีวิต เพื่อให้คนป่วยสามารถใช้และสามารถเข้าถึงได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย เพราะคนเจ็บป่วยที่ต้องการใช้กัญชาและสารสกัดจากกัญชามีนับล้านคน” นายเนวินกล่าว
