ผู้เขียน | กาแฟป่า |
---|
…ไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง “กัญชา” ในฐานะ “ยารักษา-บรรเทา” อาการต่างๆ โดยเฉพาะ “น้ำมันกัญชา” ที่ปลูกใต้ดิน-ผลิตใต้ดิน และกำลังเสาะหามาใช้กัน ด้วยเหตุผลสำคัญคือ “ราคาไม่แพงมาก” และเชื่อกันว่า ผลข้างเคียงไม่รุนแรงเกินกว่าจะทดลองใช้
…ขณะที่รัฐบาลขยับไปแบบอืดๆ ตามธรรมเนียม “ราชการประจำ” แถมยังดูเหมือนไม่อยากให้ประชาชนนำไปใช้ อยู่ๆ ก็บุกจับ “เดชา ศิริภัทร” กับ “อ.ซ้ง-พรชัย ชูเลิศ” แห่งมูลนิธิข้าวขวัญ ทั้งๆ ที่รู้ว่า กำลังทำงานค้นคว้านำกัญชามาใช้เป็นยารักษา ทำให้เกิดสภาพ “กล้าๆ กลัวๆ หลบๆ ซ่อนๆ” ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับใคร นอกจากกลุ่มทุนใหญ่ ที่ “รอ” การเอื้ออำนวยจากนโยบายรัฐ
…พรรคภูมิใจไทย ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นหัวหน้าพรรค หาเสียงด้วยนโยบายนี้ไปแล้ว วันที่ 19-21 เมษายนที่ผ่านมา จัดงาน “กัญชาเพื่อการแพทย์ พันธุ์บุรีรัมย์” สร้างแหล่งความรู้เรื่องกัญชา โดยมี “เนวิน ชิดชอบ” เป็นที่ปรึกษาใหญ่ งานระดับที่ต้อง “ต่อรอง” กับ “รัฐ” อย่างนี้ ถ้ามีพรรคการเมืองออกหน้า ก็น่าจะง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเป็นปากเป็นเสียง แทน “ประชาชน” ที่ไม่มีทุนรอน แต่อยากจะลืมตาอ้าปากจากการปลูกกัญชากันบ้าง
…ปัญหาคงอยู่ที่ “นโยบายรัฐ” ซึ่งกลัวนั่นกลัวนี่ ตั้งกฎกติกามากมายวุ่นวาย ออกอาการอยากให้ “ทุนใหญ่” ลงทุน เพราะรายเล็กอาจปฏิบัติตามเงื่อนไข-กติกาไม่ไหว งานนี้พรรคการเมืองต่างๆ ไม่เฉพาะ “ภูมิใจไทย” ต้องเข้ามาส่อง หาทางขยายโอกาสให้ “เกษตรกรทั่วไป-ท้องถิ่น” ต่างๆ เข้ามามีบทบาทกำหนด ทำให้ “กัญชา” เป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อ “ประชาชนทั่วไป” ให้ได้ ไม่ใช่พืชเศรษฐกิจ เพื่อเศรษฐกิจของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ให้ “รวยๆ” ยิ่งๆ ขึ้นอีก
…ข่าวคราวจากเพื่อนบ้านอาเซียน “อินโดนีเซีย” จัดเลือกตั้งใหญ่หลายระดับ จากประธานาธิบดีไปถึงสมาชิกสภา ไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน แดนอิเหนาประกอบด้วยเกาะต่างๆ มากกว่า 17,000 เกาะ มีประชากร 260 ล้านคน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 193 ล้านคน หน่วยเลือกตั้ง 800,000 แห่ง เทียบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งของไทย 51.2 ล้านคนแล้ว เป็น “หนังคนละม้วน”
…ชาวอิเหนาไม่ต้องหงุดหงิด “ชักกริชออกมาแกว่ง” เพราะมีระบบ “ควิกเคาต์” หรือ “นับคะแนนด่วน” เพื่อให้ทราบผลเลือกตั้งคร่าวๆ ล่วงหน้า ก่อนไปประกาศผลทางการกันต่อไป วิธีการอย่างนี้ คือการเคารพต่อ “ประชาชนเจ้าของสิทธิเลือกตั้ง” ซึ่งสมควรจะได้รับรู้ว่า แนวโน้มผลเลือกตั้งเป็นอย่างไร ไม่ใช่ไป “อุบ” ไว้เพื่อประโยชน์ในการ “ล่างูเห่า” หรือหาวิธีแก้ “เสียงปริ่มน้ำ” หรือ ฯลฯ
…การเมืองไทยยังเดินไปตาม “ร่องเดิม” ด้วยการกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี โหมวาทะความเกลียดชัง สร้างเรื่อง ผลิตข่าวปลอม เพื่อสร้าง “ปรปักษ์แห่งรัฐ” ขึ้นมาสืบทอดแทน “ทักษิณ” ที่เริ่มเงียบๆ ไป จะได้ใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการรักษา-สืบทอดอำนาจ แต่ “มุข” นี้ ต้องยอมรับว่า “ฝืด” ไปมาก เพราะคนรุ่นใหม่รู้เท่าทัน และเสาะแสวงหาข้อมูลมาหักล้างและกระชากหน้ากากได้อย่างเท่าทัน ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้กลุ่มความคิดบางกลุ่ม “ไปไม่เป็น” อยู่เหมือนกัน
…สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ “การพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์” กับกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ ได้แก่ หอการค้าออสเตรเลีย หอการค้าอังกฤษ หอการค้าอเมริกา และหอการค้าเยอรมัน เพื่อมุ่งเปิดประตูธุรกิจไมซ์ไทยสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ พร้อมจัดกิจกรรมการแถลงข่าว โดย นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ และ นายเบนจามิน เคร็ก รองประธานหอการค้าออสเตรเลีย ผู้แทนจากกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศเป็นผู้ให้รายละเอียดการแถลงข่าว ในวันพุธที่ 24 เมษายน 2562 เวลา 10.30-12.00 น. ณ ห้องอมร ชั้น 2 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
กาแฟป่า