คสช.โต้ ยิ่งลักษณ์ ยันรบ.ผลงานอื้อ! ไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้ง-คิดกดหัวประชาชน

“โฆษก คสช.” ร่ายยาว 2 ปี คสช. ผลงานเพียบ ปูดไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำ ยันเปิดกว้างให้ปชช.แสดงความคิดเห็น ไม่พาดพิงบุคคลอื่น-สร้างความแตกแยก

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในโอกาสครบรอบ 2 ปีรัฐประหาร โดยระบุว่ารัฐบาลของดิฉันทำงานไม่ได้ จึงเข้ามายึดอำนาจ ว่า ความจริงมีเหตุผลอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่เหตุผลว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรง จนกระทั่งมีคนเสียชีวิตจากการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตย สิ่งนี้เป็นการละเมิดอย่างรุนแรงของคนในสังคม โดยเฉพาะการใช้อาวุธสงครามกันมากในชุมชนเมือง การบังคับใช้กฎหมายในขณะนั้นไม่มีประสิทธิภาพ และคนไม่เคารพกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการละเมิดสถาบันก็มีมากจนกระทั่งเป็นการทำลายวิถีทางวัฒนธรรมของประเทศ และยังมีการใช้สื่อปลุกระดม ปลุกปั่นจนเกิดความแตกแยก

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าวันนี้ประชาชนกำลังจะเผชิญกับความยากลำบาก จากปัญหาปากท้อง ความยากจน รวมถึงปัญหาสังคม ยาเสพติดที่กำลังเพิ่มมากขึ้นทุกวันนั้น เรื่องของปัญหาปากท้อง ความยากจน ปัญหาสังคม โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่สังคมโดยทั่วไปเห็นอยู่แล้ว ว่า คสช.จริงจังและดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องของเศรษฐกิจจะเห็นว่า มีการแก้ปัญหาดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และมีการดำเนินการทุกๆ มาตรการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และสิ่งที่ทำสามารถตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่ทำไปมีอะไรบ้าง ทุกๆ มาตรการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำอย่างเต็มที่ ทุกๆ ด้านที่เป็นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ รัฐบาล คสช.พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ เราเชื่อว่าบางส่วนอาจจะเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเพื่อมาทำลายความน่าเชื่อถือทางด้านเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาล คสช.ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ และการดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ดำเนินการมาโดยตลอด จะเห็นว่าความขัดแย้งเงื่อนไขเดิมๆ ที่มีการแบ่งแยกสี ปัจจุบันลดระดับลงไปมาก อย่างน้อยไม่เห็นในเชิงประจักษ์ แต่ถ้าบางคนมองอาจจะเป็นความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่เป้าหมายอาจจะเปลี่ยนเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันกับคสช.และรัฐบาลมากกว่า ถ้าตรงนี้ ต้องมองว่ารัฐบาลและคสช.ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร แต่สิ่งที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง เราไม่ได้กดประชาชน เพราะในเวลานี้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างมีสิทธิ เสรีภาพ แต่ความคิดเห็นจะต้องไม่ไปพาดพิงบุคคลหรือองค์กรใดที่ทำให้เกิดความเกลียดยังหรือนำไปสู่การแตกความสามัคคี เพราะฉะนั้นแสดงความคิดเห็นได้หมด แต่ต้องไม่ไปยั่วยุ

Advertisement

“การแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ในสภาพที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมีเหตุมีผล ปัจจุบันรัฐบาลได้เปิดช่องทางการรับฟังความคิดเห็นการรับฟังความเดือดร้อนผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลการตอบรับที่นำไปสู่การแก้ปัญหาที่รัฐบาลและคสช.ดำเนินการให้ ดังนั้น 2 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า คสช.และรัฐบาลได้ดำเนินการในสิ่งที่ควรจะทำ มาอย่างเต็มที่ ยังมีเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แก้ไขปัญหาแรงงานเถื่อนให้เข้าสู่ระบบไม่ให้ใครไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ การจัดระเบียบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ส่วนการสร้างความชอบธรรมทุกฝ่ายให้ถูกต้องนั้น จะต้องสร้างความชอบธรรมให้อยู่ภายใต้กลไก กระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามหลักสากล ไม่ได้ตัดสินกันเอง” พ.อ.วินธัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image