‘ปิยบุตร’ ชี้ กกต.ไร้อำนาจแจกใบส้ม ‘ธนาธร’ ล้านเปอร์เซ็นต์ ขอสื่ออย่าเจาะข่าวแบบมีธง

“ปิยบุตร” ชี้ กกต.ไร้อำนาจแจกใบส้ม “ธนาธร” ล้านเปอร์เซ็นต์ กางกฎหมายยันผิดฝาผิดตัว หวั่นสังคมกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ท้าสื่อดีเบตถ้าคาใจ ขอเจาะข่าวอย่ามีธง

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 23 เมษายน ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจมีมติแจกใบส้มให้นายธนาธร กิจรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากการโอนหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ว่ากระบวนการตรวจสอบกรณีของนายธนาธรตอนนี้แบ่งเป็น 3 ช่อง คือ 1.การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งจะทำตั้งแต่วันสมัครถึงวันที่ 23 มีนาคม หากพบปัญหา กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณา 2.กรณีเลือกตั้งไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม จนถึงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ที่มีกำหนดว่าจะเป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ก็จะมีการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งที่จะนำไปสู่การแจกใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม เป็นอำนาจ กกต.วินิจฉัย ส่วนการขัดคุณสมบัติและลักษณะต้องตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ม.53 ระบุว่าใช้สำหรับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น และ 3.หากประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ถ้าพบ ส.ส.ที่รับรองไปแล้วขัดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามอีกก็ต้องไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นายปิยบุตรกล่าวว่า กระบวนการที่ตรวจสอบกันอยู่นี้ถือว่าหมดเวลาไปแล้ว นายธนาธรเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 การตรวจสอบและการจะร้องเรียนจะทำตามข้อสองไม่ได้ เพราะใช้สำหรับ ส.ส.เขต หากจะไปรอส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับรอง ส.ส. จึงพยายามจะใช้ช่องแจกใบส้ม คือช่องการทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่ง กกต.มีอำนาจแจกใบเหลือง ที่จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ใบแดงเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและใบส้มตาม ม.132 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งกำหนดว่า ถ้า กกต.ไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ กกต.สั่งระงับสิทธิชั่วคราวไม่เกิน 1 ปี

“ถามว่าคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ มันคงละเรื่องเลย ถ้าจะตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ก็เลยมาแล้ว ถ้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อก็ต้องรอรับรองผลให้เป็น ส.ส.ก่อน แล้วจึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา จึงพยายามใช้ช่องใบส้ม หากมีการใช้ช่องทางการแจกใบส้ม ขอยืนยันว่าเป็นการใช้กฎหมายคนละช่องคนละประตู จึงไม่มีที่ให้ใช้แจกใบส้มล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นเรื่องการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่ใช่คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ส.ส. ผมยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องผิดฝาผิดตัว และหากจะใช้เรื่องนี้ต้องให้นายธนาธรชี้แจง ดังนั้น จึงพิจารณาว่า กกต.ไม่อาจแจกใบส้มได้วันนี้ เต็มที่คือแจ้งข้อกล่าวหาก่อน แล้วต้องให้นายธนาธรชี้แจงข้อกล่าวหา เพราะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพต่อคนอื่น ซึ่งอนาคตใหม่พร้อมชี้แจงทั้งกฎหมายและข้อเท็จจริง” นายปิยบุตรกล่าว

Advertisement

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีของนายธนาธรที่ กกต.นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า อยู่ในชั้นของคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน เพื่อทำความเห็นส่ง กกต.โดยการตรวจมูลกรณีมีกรอบเวลาตรวจ 7 วัน ถ้าไม่มีมูลก็ยุติเรื่อง ถ้าเห็นควรสืบสำนวนหรือไต่สวนก็ดำเนินการต่อ แต่ในกรณีของนายธนาธร กำลังอยู่ในขั้นไต่สวน มีระยะเวลา 20 วัน ขยายเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง คณะกรรมการช่วยตรวจสอบมีอำนาจในการเรียกคนไปชี้แจงได้ แต่ไม่เรียกนายธนาธร หรือพรรคอนาคตใหม่ไปชี้แจงเลย จึงให้ทีมไปยื่นเอกสารเมื่อวันที่ 22 เมษายน ก็หวังว่าจะถูกนำเข้าไปอยู่ในสำนวนแล้ว จากนั้นหลังไต่สวนก็จะสรุปว่า แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธรหรือไม่ ซึ่งหากวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธรตามกระแสข่าวจริง ตามกฎหมายบังคับว่าต้องให้นายธนาธรมาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานต่อไป

“ผมเห็นใจ กกต.ที่ต้องทำหน้าที่ตามระบบเลือกตั้งใหม่ ขอให้ยืนอยู่กับหลักให้มั่น กกต.ต้องอยู่ต่อไปอีกนาน เพื่อจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและยุติธรรม คสช.กำลังจะพ้นอำนาจ หาก กกต.ยังยืนยันดึงดันจะแจกใบส้มให้ได้วันนี้ โดยไม่ให้นายธนาธรเข้าไปชี้แจง ผมกังวลว่าสังคมไทยจะคิดว่านี่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งอาจมีปัญหาตามมา ในเมื่อข้อกฎหมายข้อเท็จจริงไม่เข้าข่ายการแจกใบส้ม ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ ดังนั้นความสุจริตจะเป็นเกราะกำบังให้ตัวท่านเอง ส่วนสื่อมวลชนบางสำนักที่ยังไม่ยอมรับว่าเข้าใจผิด แม้จะมีการแถลงตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนแล้ว การทำงานแบบนี้น่าจะเกินกว่าเหตุ หากสื่อสำนักไหนยังคาใจ ผมพร้อมดีเบต ทั้งนี้ ผมนิยมชมชอบสื่อที่ยกตัวเองเป็นข่าวเจาะ แต่ข่าวเจาะที่ว่าอย่าเจาะโดยมีธงในใจเหมือนมีทิฐิมานะ จะน็อกให้ได้” นายปิยบุตรกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image