เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายนพดล อมรเวช หัวหน้าพรรครวมใจไทย กล่าวว่าการที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเพื่อไทย สั่งการให้สมาชิกพรรคเตรียมตัวหาเสียง เพราะคาดว่ารัฐบาลใหม่จะอายุสั้นนั้น มีมูลเหตุและน้ำหนักเพียงพอที่จะประเมินสถานการณ์ออกมาเช่นนี้ ซึ่งในส่วนของตัวเอง ยังมองลึกไปถึงว่า รัฐบาลใหม่ไม่เพียงแต่อาจจะอายุไม่ยาว แต่อาจจะไม่เกิดรัฐบาลใหม่เลยก็สามารถเป็นไปได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพราะมีหลายกรณีที่เชื่อได้ว่าจะเป็นเช่นนั้น กรณีแรกไม่เกิดรัฐบาลใหม่เลย อาจมาจาก กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ หรืออาจมีการโมฆะผลการลงคะแนนวันที่ 24 มีนาคม อันมาจากความขัดแย้งหลายกรณีและการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. หากโมฆะผลการเลือกตั้งก็ต้องมีการจัดตั้งสภาประชาชน เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือรัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ได้มาจากประชาชน ดังนั้น ควรตั้งสภาประชาชนเพื่อร่วมกันร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับถาวรของชาติไทย และต้องผ่านประชามติ ที่สำคัญต้องกำหนดเงื่อนไขเวลาว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาใดที่ชัดเจน
นายนพดลกล่าวต่อว่า หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ เชื่อว่าจะอายุสั้น เพราะเสียงปริ่มน้ำ และจะมีช่วงประลองกำลังเพื่อวัดเสียงในสภาครั้งแรก คือการโหวดเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีความสง่างามหรือไม่ หากชนะแบบไม่ขาดลอย กรณีดูเปรียบเทียบจากจำนวน ส.ส.เท่านั้น อีกทั้งแต่ละเสียงในสภาจะไปดุเดือดมากที่สุด หรือสภาจะป่วน เมื่อเสียงของ ส.ส.ในสภาก้ำกึ่งแบบนี้ คือช่วงการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี หากไม่ผ่านก็ต้องยุบสภาในที่สุด
