•…ฟังคำยืนยันด้วยความไม่เชื่อ “เล่นกันขนาดนั้น” ว่ารัฐบาลหลังเลือกตั้ง “กำหนดคำตอบไว้ก่อนที่จะตั้งคำถาม” ไม่มีทางเป็นอื่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเป็น “นายกรัฐมนตรี” เท่านั้น ไม่ว่า “ผลเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร” ที่สุดแล้ว ทุกอย่างจะถูกทำให้ลงตัวตามคำตอบ แต่ยิ่งเนิ่นนานออกไป ดูเหมือนว่า “เรื่องไม่น่าเชื่อ กลายเป็นมีแนวโน้มว่าจะเป็นจริงมากที่สุด”
•…ผลการเลือกตั้งที่ประกาศมาระดับหนึ่ง ทำให้ “พรรคแนวร่วมต่อต้านสืบทอดอำนาจ” เกิดมีความหวังขึ้นมาว่าจะเป็น “แกนนำจัดตั้งรัฐบาล” ได้ เพราะ “เพื่อไทย” ได้ ส.ส.มากที่สุด “พรรคแนวร่วม” ได้ ส.ส.รวมเกินครึ่ง หลักการแต่ก่อนเก่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ “การเมืองวันนี้” ไม่จบแค่ “ผลเลือกตั้ง” บทบาทของ “องค์กรอิสระ” ที่มีอำนาจอย่างเป็นทางการ เป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ “ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไป” ไม่ว่าจะเป็น “กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ-ป.ป.ช.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน” และอื่นๆ ในความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วไปขณะนี้ “ผลการเลือกตั้งไม่มีความหมาย”
•…เรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ก่อให้เกิดความเชื่อว่ามี “กระบวนการจัดการ” ให้เป็นไปตาม “คำตอบที่มีมาก่อนที่จะตั้งคำถาม” นั้น มีคำแนะนำสำหรับคนที่เรียกหา “ความเป็นธรรม” โดยมีความเชื่อว่ามีอยู่ ให้ไปศึกษา “ศาสตร์แห่งการกุมอำนาจตำรับจีน” ที่ย้ำว่า “หน้าด้าน-ใจดำ” เป็นสภาวะที่ “ผู้ปรารถนาอำนาจ” ต้องยึดถือไว้เป็น “หลักพฤติกรรมประจำใจ” ส่วน “ความชอบธรรม” เป็นแต่ “เรื่องเรียกหา” ของ “พวกโลกสวย” ที่ไม่มีความหมายอะไร ใน “เกมอำนาจ”
•…ไม่เพียง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล และ “พลพรรคอนาคตใหม่” เท่านั้นที่เผชิญกับบทเรียนแห่ง “เกมอำนาจ” ด้วยประสบการณ์ตรงใน “ความซับซ้อนของอำนาจ” ว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลง” และ “ความตรงไปตรงมา” มีความหมายเดียวกับ “อ่อนชั้น” แต่ “คนรุ่นใหม่” ทั้งหมด เรียนรู้ “พลังของความไม่ซื่อตรง” ผ่าน “คนที่” เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนที่เขาเลือก ซึ่งเข้าถึง “ความเจ็บปวด” ได้ ไม่ต่างกัน ที่น่าคิดคือ “ประสบการณ์เช่นนี้ จะสร้างสำนึกแบบไหนให้บุคลากรแห่งอนาคต”
•…ทุกการพัฒนา ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลล้วนสรุปตรงกันว่า “คนคือปัจจัยสำคัญที่สุด” และ “ทรรศนะต่อสำนึกเพื่อส่วนรวม” เป็นแก่นแห่ง “คุณภาพคน” การช่วงชิงอำนาจที่ “ฝากบาดแผลไว้ในสำนึกคนรุ่นใหม่” จะนำอะไรมาสู่ “อนาคตของชาติ” ล้วนแล้วแต่คาดเดาได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่า “ประเทศชาติในอนาคต” มีผลต่อ “คนรุ่นหลัง” ส่วนคนที่ “มืดเมาในอำนาจซึ่งสร้างชะตากรรมเหล่านั้นไว้” ถึงวันที่กรรมที่ทำไว้มีผลต่อประเทศ “ต่างตกตายสลายจากโลกไปแล้ว”
•…ไม่เพียง “ผลการเลือกตั้ง” ยังไม่มีความชัดเจน เพราะหลายภารกิจของ “กกต.” ยังไม่จบอีกหลายเรื่อง โดยมีแนวโน้มไปในทางที่จะก่อ “ความแตกแยก” รุนแรงขึ้น ขณะ “ความเชื่อมั่น” จะยิ่งตกต่ำลง สถานการณ์อาจจะไปไกลกว่านั้น ถึงวันนี้ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” รับคำร้องที่จะให้ “การเลือกตั้งเป็นโมฆะ” ไว้พิจารณาแล้ว หากก้าวข้ามความคิดที่ว่าจะทำให้ “อำนาจของประชาชน” ถูกยื้อยาวออกไป “เหตุผลในคำร้องนั้นถือว่ามีน้ำหนักระดับต้องเงี่ยหูฟัง”
•…ท่ามกลางเสียงยืนยันว่า “เศรษฐกิจดี” และ “เงินทองที่สะสมไว้ของประเทศมีเหลือเฟือ” มาตรการ “รัฐบาลแจกเงินคนละ 1,500 บาท” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และ “ขึ้นค่ารถเมล์” กับ “เก็บภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝาก” ทำให้ “ภาพที่ชี้ให้เชื่อ” กับ “ความเป็นจริงของการกระทำ” สวนทางกันชัดเจน
•…การใช้อำนาจเข้มข้น สั่งการช่วยเหลือ “ทุนใหญ่” กับขณะที่ออกคำสั่งเพิ่มภาระให้กับผู้มีรายได้น้อยอย่าง “ขึ้นค่ารถเมล์” เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่า “จะทำกันได้ลงคอ” ทว่า “ผลการเลือกตั้ง” ที่เป็นช่องทาง “อำนาจประชาชน” ไม่มีความหมาย เรื่องราว “ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น” กลายเป็นเรื่อง “เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย” และ “ไร้กังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อผู้ใช้อำนาจ”
ชโลทร