เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายนพดล อมรเวช หัวหน้าพรรครวมใจไทย (รจท.) เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะสามารถรวบรวมจำนวน ส.ส.ได้ถึง 260 เสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะมีความได้เปรียบอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน โดยเฉพาะสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขณะที่ข้อควรกังวลที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในส่วนของแกนนำหลักกับพรรคเศรษฐกิจใหม่จะมีท่าที่ไม่อยากเข้าร่วมกับพปชร.ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดเพื่อความลงตัว ตนเองเชื่อว่ามติของทั้ง 2 พรรคการเมืองนี้คงจะต้องเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และฝ่ายที่เห็นแย้งคงต้องทำตามมติของพรรคอย่างแน่นอน
นายนพดล กล่าวว่า โดยอาจจะอ้างร่วมรัฐบาลเพื่อจะได้นำนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้ไปปฏิบัติได้จริง และทุกพรรคการเมืองก็ล้วนแต่อยากเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว เท่านี้เสียง ส.ส.น่าจะเพียงพอแล้ว แต่หากถึงวันจริง เชื่อว่าจะมีกลุ่มงูเห่าจากพรรคอื่น หรือแม้แต่จากพรรคขนาดใหญ่ ตนเชื่อว่าจะมีงูเห่ามาอยู่กับพรรค พปชร. อีกด้วย เพราะส.ส.ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้านเท่าใดนัก
นายนพดล กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรค พปชร.ได้มีการวางตัว นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ในส่วนตัวมองว่า นายสุชาติเป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและมีความสามารถสูงมาก ถือว่ามีความเหมาะสม แต่ในปัจจุบันการคุมเกมในสภาผู้แทนราษฎร อาจไม่เหมือนสมัยที่ผ่านมาแล้ว เพราะโลกเปลี่ยนโลกและการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก การคุมเกมในสภาเพื่อป้องกันสภาป่วน ไม่เพียงต่อต้องมีบารมีกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่ต้องเป็นที่ยอมรับของ ส.ส.ฝ่ายค้านด้วย ยิ่งปัจจุบันมี ส.ส.หน้าใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาในสภาจำนวนมาก และนักการเมืองรุ่นใหม่เหล่านี้ พูดกันที่เหตุและผล ไม่ได้พูดกันที่อายุหรือ ใครอาบน้ำร้อนมาก่อน
