ไม่ว่าจะเรียกว่า อาการ “นิติศาสตร์ ไฮเปอร์” ไม่ว่าจะเรียกว่า “โดมิโน ทางการเมือง” ล้วนเริ่มต้นจาก “รัฐธรรมนูญ อักเสบ” ที่เห็นได้ชัดจากสถานการณ์เลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม
เหมือนกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรคอนาคตใหม่จะตกเป็น “เป้า”
ครึกครื้นอย่างยิ่งจากถือครองหุ้นบริษัท “สื่อ”
ครึกครื้นอย่างยิ่งจากการจับผิดผ่าน “ความรู้สึก” ที่ว่าในวันที่ 8 มกราคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไพร่หมื่นล้าน อยู่ที่ไหน ทำไมไม่นั่งเครื่องบิน
แต่จากกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังนำไปสู่การ ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ด้วยความคึกคัก
ตามแผน “ดีดนิ้ว” สลายผู้สมัครครึ่งจักรวาล อินฟินิตี้ วอร์
ตัวอย่างง่ายๆ เห็นได้จากการยื่นคำร้องพุ่งเป้าไปยัง 32 ผู้สมัครจาก 6 พรรคการเมืองที่ร่วมลงสัตยาบันคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.
ตามมาด้วยการที่พรรคเพื่อไทยยื่นให้ตรวจสอบผู้สมัครคนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐใน กทม.
ตามมาด้วยการที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ยื่นให้ตรวจสอบผู้สมัครคนหนึ่งในจังหวัดสกลนครของพรรคพลังประชารัฐว่า อาจเข้าข่ายเดียวกันกับผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกตัดสิทธิไปแล้ว
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คาด
การเป็นผู้ถือหุ้นล้านหุ้นหรือ 1 หุ้นล้วนต้องห้าม กิจการที่เกี่ยวกับสื่อจะดูที่วัตถุประสงค์การก่อตั้งในหนังสือจดทะเบียนบริษัท
หากมีคำว่าหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนย่อมไม่ได้
ไม่เพียงแต่จะลามไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หากกำลังจะไหม้ไปยัง นายอุตตม สาวนายน
คำถามมิได้อยู่ที่ว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่ จะทำอย่างไร หากอยู่ที่ว่า กกต.ซึ่งเป็นผู้รับคำร้องและดำเนินการตรวจสอบจะทำอย่างไรมากกว่า
เพราะว่าทำท่าว่าอาจไม่ได้เพียง 2 พรรคนี้
เป็นไปได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติ ไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา หรือผู้สมัครคนใดที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ก็จะมี
จึงไม่แปลกที่จะเกิด # โดมิโนทางการเมืองเริ่มต้นแล้ว
