“กรณ์” ลงชิง หน.ปชป. เปิดชื่อ “ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์” เป็นเลขาฯ ชี้เป็นคนที่ทุกคนในพรรคยอมรับ “กรณ์” ลั่น ไม่บังคับ ไม่แบ่งพวก
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าในการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ นอกจากมีชื่อของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคแล้ว ยังมีชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศตัวพร้อมชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอยากเห็นพรรคกลับมาเหมือนเดิม เพราะตอนนี้เห็นว่าพรรคมีการแบ่งขั้วที่นับวันจะเกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น จึงต้องการเข้ามาฟื้นฟูพรรค
แหล่งข่าวระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของนายกรณ์ได้ระบุว่า การตัดสินใจอะไรก็ทำเต็มที่ แต่จะไม่พูดว่าแพ้ไม่ได้ โดยนายกรณ์ได้พูดคุยกับสมาชิกที่มีสิทธิเลือกและไม่เลือกหัวหน้าพรรค แต่ก็ไม่ได้ไปบอกว่าต้องเลือกตนหรือไปถามว่าเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ เพียงแต่ไปเสนอแนวคิดและแลกเปลี่ยนว่าอยากเห็นพรรคเป็นอย่างไร แต่เมื่อคุยแล้วเขาจะเลือกหรือไม่ สุดท้ายแล้วเราก็เป็นพวกเดียวกัน ซึ่งการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ทุกคนมีสองมิติคือ เลือกแล้วมีที่ยืนหรือไม่ และยืนอยู่ตรงไหน เลือกแล้วคนนี้จะนำพาพรรคไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่ อาจจะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสกลับมาเป็น ส.ส.มากขึ้นหรือน้อยลง
“การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้เป็นความตั้งใจของพวกเราทุกคน คือเลือกแบบสร้างสรรค์ ไม่เลือกให้ขัดแย้ง และไม่พยายามที่จะสร้างเงื่อนไขในการบังคับให้แสดงตนว่าเป็นพวกใคร พอไปสร้างเงื่อนไขว่าไม่ใช่พวกกู ถ้ากูมามึงไม่มีโอกาสนะ เป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งพรรคแบ่งพวก เราเคยเห็นมาแล้ว ซึ่งทำให้มีปัญหาและขาดความสามัคคี” แหล่งข่าวระบุ
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคในทีมของนายกรณ์นั้น แหล่งข่าวระบุว่า คือนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายกรณ์รู้จักกับนายชัยวุฒิมานาน และเป็นคนที่มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ มีความสุขุม รอบคอบ และเป็นคนที่ทุกคนในพรรคยอมรับ เข้าถึงได้ พูดคุยได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่จะสามารถดึงคนมาร่วมเดินไปในทิศทางเดียวกัน และมีความเป็นพรรคเดียวกันได้เข้มแข็ง เพราะนายกรณ์มีจุดอ่อนจุดด้อยบ้าง เพราะฉะนั้นการทำงานทุกอย่างต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถมาเสริมในส่วนที่ขาด นายกรณ์จึงมองว่านายชัยวุฒิสามารถเติมเสริมให้นายกรณ์เป็นหัวหน้าพรรคที่ดีขึ้นได้ เพราะลำพังทำงานคนเดียวไม่พอ ส่วนตำแหน่งอื่นนายกรณ์ก็มีในใจอยู่แล้ว และการตั้งคนก็จะดูที่ความเหมาะสม
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า เป้าหมายสำคัญในการวางแผนเลือกตั้งข้างหน้า คือทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่หันมาเลือกเรา และหันมาหาเรา ซึ่งส่วนใหญ่ 6 ล้านคะแนนที่เคยเลือกเรา หันมาเลือกเรา ดังนั้นทำอย่างไรถึงดึงคนมาเหมือนเดิม ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสองเรื่องที่พรรคต้องทำขนานกันคือ 1.การทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าพรรคจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะต้องพยายามขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้ เช่น การประกันรายได้ เชื่อว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แก้ไขปัญหาราคายาง ปาล์ม ข้าว ได้ดีที่สุด และ 2.การบริหารจัดการของพรรคเพื่อกำหนดเป้าหมายพรรค จะต้องมีความชัดเจนว่าเลือกพรรคแล้วได้อะไร ต้องสื่อสารให้ชัด เสมอต้นเสมอปลาย และอยากทำการเมืองเพื่อให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ไม่อยากทำการเมืองเลือกขั้ว ที่ผ่านมาประชาชนเลือกขั้วเพราะเขาคิดว่าจะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น การเลือกขั้วแบบนี้ไม่ใช่คำตอบหรือทำให้ชีวิตดีขึ้น ประเทศมีความก้าวหน้า แต่ถ้าพรรคสื่อสารชัดเจนและทำให้ประเทศก้าวหน้า มีความสงบและมีความมั่นคง เศรษฐกิจดี ประชาชนมีรายได้ดี สุดท้ายประชาชนจะหันมาเลือกเรา