ฝุ่นตลบชิงส.ว. คสช. วิปสนช.ประชุมลับ สมาชิกแห่เขียนใบลาออกไม่ลงวันที่กันวืด เหตุ รมต.ฮือลาออก- รับพปชร.สอบตก ลุ้นระทึกผ่านทำเนียบองคมนตรีด่านสุดท้าย
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม รายงานข่าวจากสนช.แจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวถึงกระแสการยื่นใบลาออกจากความเป็นสมาชิกสนช.เพื่อเตรียมรับตำแหน่งเป็นส.ว.แต่งตั้งจากหัวหน้าคสช.ในสัดส่วน 194 คนนั้น ในการประชุมสนช.นัดพิเศษครั้งสุดท้าย ที่สถาบันพระปกเกล้า ช่วงเช้ามีการประชุมลับวิปสนช. โดยมีการหารือถึงการยื่นใบลาออกก่อนเข้ารับตำแหน่งเป็นส.ว. ซึ่งมีสมาชิกสนช.จำนวนมากทยอยเขียนใบลาออกในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน ทำให้ยอดใบลาออกจากสนช.มีจำนวนมากถึง 90 คน ตามกระแสข่าว ทว่ายังคงมีความไม่แน่นอน อาจมีเหตุทำให้หลุดโผ สมาชิกสนช.จึงเขียนใบลาออกโดยไม่ลงวันที่ เผื่อไว้สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับตำแหน่งส.ว. จะได้คงสถานะสมาชิกสนช.ไว้ เพื่อยึดหลักการความต่อเนื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะยังต้องมีอยู่ต่อไป แม้จะต้องพ้นจากตำแหน่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ตาม
สำหรับส.ว.แต่งตั้งจำนวน 194 คน ที่หัวหน้าคสช.เป็นผู้แต่งตั้งนั้น ยังคงไม่นิ่งสำหรับสมาชิกสนช. จึงทำให้ไม่มีใครประกาศชัด เนื่องจากเหตุผล 2 ข้อคือ 1.การลาออกของคณะรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งเป็นส.ว.ที่เพิ่มมากขึ้นจาก 10 จนถึงเกือบ 20 คน เพื่อเตรียมเกลี่ยตำแหน่งในการจัดตั้งรัฐบาลผสม จึงอาจทำให้สมาชิกสนช.บางรายที่ได้รับการตกลงแล้ว อาจถูกยกเลิก และ2.แรงกดดันของฝ่ายการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐ สำหรับส.ส.สอบตก ซึ่งจะลาออกจากสถานะความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อมาเป็นส.ว. ประกอบกับเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วิปสนช.เคยแจ้งต่อสมาชิกสนช.แล้วว่า โควต้าส.ว.แต่งตั้งสำหรับสมาชิกสนช. จะมีเพียง 25-30 ตำแหน่งเท่านั้น
แต่ภายหลังสมาชิกสนช.จำนวนหนึ่งต่อตรงถึงคสช.โดยตรงจึงทำให้ยอดสมาชิก สนช.ที่จะมาเป็นส.ว.อยู่ที่ราว 70 คน ถือว่ามากกว่าแม่น้ำสายอื่น ที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจากคำบอกเล่าจากสมาชิกสปช.และสปท.หลายรายก็พบว่า สัดส่วนส.ว.แต่งตั้งของสปท.และสปช.รวมกันนั้น ท้ายที่สุดไม่น่าจะเกิน 20 คน ที่ได้รับการยืนยันผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์แน่นอนแล้ว เช่น นายวันชัย สอนศิริ นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สำหรับในสัดส่วนส.ว. เลือกกันเอง 10 กลุ่มวิชาชีพ ที่คสช.จะจิ้มเหลือ 50 คนนั้น ก็มีสมาชิกสปช.และสปท. ผ่านด่านระดับประเทศมาถึงชั้นสุดท้าย ราว 5 คน แต่คาดหมายกันว่า จะผ่านการคัดเลือกของคสช.ไม่เกิน 2 คน เช่น พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช
อย่างไรก็ตาม ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อรวมโควต้าของแม่น้ำ 5 สาย อย่างสนช.อย่างน้อย 70 รวมกับสปช.และสปท.อีกราว 20 คน ยังคงไม่ถึงยอด 194 คน ก็เพราะยังมีสัดส่วนสำหรับคนหน้าใหม่ ซึ่งเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่กำลังจะเกษียณอายุอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องได้รับแต่งตั้งเป็นส.ว.เพื่อเป็นการเกลี่ยตำแหน่งให้ลงตัวรอฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายช่วงปลายปีด้วย สำหรับขั้นตอนการนำรายชื่อส.ว.ทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯนั้น เมื่อผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว ยังต้องผ่านทำเนียบองคมนตรีด้วย เนื่องจากตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ บทเฉพาะกาลนั้น ให้อำนาจแก่หัวหน้าคสช. จึงไม่ใช่การดำเนินการตามขั้นตอนของฝ่ายบริหารตามกลไกปกติ
