การประกาศรับรอง ส.ส.เขต ประสานเข้ากับ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดย กกต.นับแต่วันที่ 7 เรื่อยมาจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคม ได้สร้างความแจ่มชัดในทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแต่แจ่มชัดในเรื่องจำนวนที่นั่งแต่ละพรรคการเมืองว่าเป็นอย่างไร
หากแต่จะยิ่งมีความแจ่มชัดในทิศทางและการเลือกข้าง
ขณะที่รอพรรคประชาธิปัตย์ออกมติพรรคจากการประชุมในวันที่ 18 พฤษภาคม ขณะที่รอพรรคภูมิใจไทยจะแสดงท่าทีในวันที่ 18 พฤษภาคม
เบาะแสสำคัญเบาะแสหนึ่ง คือ ท่าทีของแต่ละพรรคการเมืองต่อการนำเอาสูตรมาใช้ประกาศรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
นี่คือจุดตัดและเส้นแบ่งอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง
เด่นชัดว่าท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติ ไทยหรือแม้กระทั่งพรรคประชาชนปฏิรูป เห็นด้วยกับการตัดสินใจ ของ กกต.
เพราะเชื่อว่าสูตรนี้จะสร้างความได้เปรียบในเชิงเพิ่มจำนวน ของฝ่ายตนและลดทอนจำนวนของอีกฝ่าย
ขณะเดียวกัน ท่าทีของพรรคอนาคตใหม่ซึ่งคะแนนตกน้ำหายไปกว่า 6 แสนคะแนน จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลง 7 คนย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน
ความไม่พอใจนี้ยังผ่องถ่ายไปยังพรรคเพื่อไทยซึ่งเคยแถลงการณ์คัดค้านการใช้สูตรนี้ของกกต.มาตั้งแต่ต้น
คำถามจึงเสนอไปยังพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากสูตรนี้ไปด้วยแม้จะไม่มากเท่ากับของพรรคอนาคนใหม่ก็ตาม
ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยจึงสะท้อนความรู้สึกออกมาได้เป็นอย่างดีว่าจะไปในทิศทางใด
พรรคภูมิใจไทยไม่แสดงความรู้สึกใดๆต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นแต่ พรรคประชาธิปัตย์เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการประชุมและจะประกาศท่าทีออกมา
หากมองจากพื้นฐานที่ 2 พรรคนี้เป็น “ตัวแปร” สำคัญ
ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยต่อการตัดสินใจของ กกต.จึงมีนัยสำคัญในทางการเมืองอย่างลึกซึ้งแหลมคมเป็นพิเศษ
ว่าจะยืนอยู่กับ กกต.พรรคพลังประชารัฐ หรือว่าตรงกันข้าม