‘ธนาธร’ ชู 377 เสียงพรรคไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ สู้ ‘ปิดสวิชต์ ส.ว.’

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก “Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ด้วยข้อความระบุว่า

[ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ข้อเสนอของผมที่ให้ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. ยังมีความเป็นไปได้ และเราต้องทำให้เกิดขึ้นจริง]

ถึงตอนนี้มีความชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ กกต.ประกาศรับรองแล้ว 498 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพียงพอที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองและอนาคตประเทศไทยว่าจะเดินไปทางไหน ซึ่งผมและพรรคอนาคตใหม่ขอให้ทุกท่านนำข้อเสนอที่เราพูดไว้ก่อนเลือกตั้งเรื่องการ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” มาช่วยกันผลักดันทำให้เกิดขึ้นจริง

การ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” คือการที่เราสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในสภาผู้แทนราษฎร (ที่มีอยู่ 500 คน) โดยไม่ให้สมาชิกวุฒิสภา(250 ที่นั่ง) ที่ไม่ได้มาจากประชาชนสามารถดำเนินการเลือกแล้วส่งผลต่อผลการเลือกภายในสภาผู้แทนราษฎรให้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้

Advertisement

ต้องขออธิบายย้อนรอยไปว่าในรัฐธรรมนูญและบทเฉพาะกาลที่ประกาศใช้ในยุค คสช. กำหนดให้ ส.ส. (500 ที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน) ร่วมกับ ส.ว.(อีก 250 ที่นั่งที่มาจากการเลือกของ คสช. รวมทั้งสองสภาแล้วมี 750 ที่นั่ง) เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครองเสียงส่วนใหญ่ เสียงข้างมาก หรือเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา(375 ที่นั้ง) ได้ก็จะได้เป็นนายกฯ ไป

แต่ตอนนี้ 3 พรรคการเมืองที่ประกาศหนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชากลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งและต้องการสืบทอดอำนาจ คสช. ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ(115 ที่นั่ง) พรรครวมพลังประชาชาติไทย(5 ที่นั่ง) พรรคประชาชนปฏิรูป(1 ที่นั่ง) รวมแล้ว 121 ที่นั่ง เมื่อบวกกับ 250 ส.ว. แล้วก็จะได้เพียง 371 ที่นั่ง ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง(375 ที่นั่ง) ของจำนวนที่นั่งรวมในสองสภา(750 ที่นั่ง) ซึ่งข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. ที่เราเคยเสนอไว้ว่ากรณีพรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรน้อยกว่า 124 ที่นั่ง นั้นยังสามารถเป็นไปได้

ดังนั้น ผมและพรรคอนาคตใหม่ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยกลับไปทวงถามคำสัญญาญที่พรรคการเมืองต่างๆ เคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง(ว่าพวกเขาไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.) เพราะนี่คือการยับยั้งนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากประชาชน

พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลสามารถมีส่วนร่วมได้ทั้งหมด โดยการโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีที่รวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราฎรได้ และเราจะมี 377 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรที่พร้อม “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ซึ่งมากกว่า 3 พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจบวกกับ ส.ว. 250 คน ทำให้การเมืองแบบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้

นี่จะเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้ประเทศไทยเดินทางกลับสู่ประชาธิปไตย โดยหลังจากนี้ พรรคอนาคตใหม่พร้อมและยินดีเดินทางไปพบกับทุกพรรคการเมืองที่มีนโยบายไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด พรรคฝ่ายค้าน พรรคจัดตั้งรัฐบาล พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ฯลฯ เรามีส่วนร่วมกันในการที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. และเปิดประตูบานใหม่สู่ประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่พร้อมไปพูดคุยกับทุกพรรค เพื่อให้การปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นจริงได้
.
#อนาคตใหม่ #เลือกตั้ง62 #ปิดสวิตช์ส.ว.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image