เหยี่ยวถลาลม : ไม่มีที่ให้ยืน

หลังจากเป่านกหวีดเป็นสะพานทอดข้ามให้ “คสช.” ก่อการ สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ใช้ท่วงทำนองของการเมืองชั้นสูงมาตั้งแต่โบราณหลบฝุ่นที่ตลบอบอวลไปห่มผ้ากาสาวพัสตร์

ขณะที่ยังห่มผ้าเหลือง “พระสุเทพ” ถึงกับประกาศว่า แม้เมื่อลาสิกขาไปแล้วก็จะไม่กลับไปบนถนนการเมืองอีกแล้ว พอแล้ว ไม่เป็นนักการเมืองแล้ว

“สุเทพ” เปลี่ยนใจเมื่อเสียงกลองศึกเลือกตั้งลั่นรัว

เป็น 1 ในแกนนำคนสำคัญของ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย”

Advertisement

ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหารชนิดสุดลิ่ม

ตัดสินใจกระโจนสู่ถนนการเมืองพร้อมคำประกาศใหม่ว่า “แม้จะถูกโจมตีตระบัดสัตย์ก็ไม่สนใจคำวิจารณ์”

สุเทพ “เดินคารวะแผ่นดิน” ได้ทั้งหาเสียงและหยั่งคะแนนนิยม

Advertisement

จนเมื่อมั่นใจว่าจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สุเทพ เทือกสุบรรณ จึงห้าวฮึกเหิมที่ปัตตานีว่า ถ้า (ประชาชน) เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อชาติ เพื่อธรรม หรือตระกูลเพื่อทั้งหลาย รวมทั้งพรรคประชาชาติ พรรคอนาคตใหม่ กเฬวรากทั้งหลาย ให้เตรียมตัวไปราชดำเนินกันใหม่

นกหวีดจะกลับมา !

“สุเทพ” ทุ่มสุดตัวจนแตกคอกับปีกหนึ่งในประชาธิปัตย์ พร้อมกับจัดหนักถึงขั้นส่งผู้สมัครปูพรมครบทั้ง 350 เขต

ปะทะประชัน “ประชาธิปัตย์” ทุกเขตพื้นที่

ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน ยังอหังการถึงกับประกาศว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่มีใครเหนือ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีวุฒิสมาชิกในกระเป๋าแล้ว 250 คน ต้องการ ส.ส.อีก 126 คน ซึ่งไม่ต้องไปหาที่ไหน ให้มาเอาจาก “พรรครวมพลังประชาชาติไทย”

ผลสุดท้าย !

จากที่ส่งผู้สมัคร 350 เขตเลือกตั้ง ได้ ส.ส.เขตมาเพียง 1 เดียว คือ นายสุพล จุลใส เขต 3 ชุมพร

ที่เหลือแพ้เรียบ

“พรรคอนาคตใหม่” ที่ถูกสบประมาทได้ ส.ส.เขตถึง 30 คนกับได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก 50 กลายเป็นพรรคใหญ่อันดับ 3 รองจาก เพื่อไทยและพลังประชารัฐเท่านั้น

สุเทพและรวมพลังประชาชาติไทยพ่ายแพ้ออย่างราบคาบ

ที่น่าสลดหดหู่ที่สุดคือ สุราษฎร์ธานี ถิ่นฐานของ “เทือกสุบรรณ” บ้านเกิดของ “สุเทพ” ที่ยึดครองมายาวนาน 40 ปี

วันนี้ ไม่มี “พลังประชาชาติไทย” แม้แต่ “1 ที่” ในสุราษฎร์ธานี

ไม่มีที่ให้ยืน แม้แต่ในบ้านตัวเอง !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image