เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค อาทิ นายชัย ชิดชอบ, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ, นายศุภชัย ใจสมุทร, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม เป็นต้น เดินทางมารับหนังสือรับรองความเป็น ส.ส.จาก กกต. นอกจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรคก็ได้เดินทางมารับหนังสือรับรองความเป็น ส.ส.จาก กกต.เช่นกัน
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ขอฟังเสียงประชาชนในการจัดรัฐบาล ได้สั่งให้ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่อย่างหนักและภายในสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้าตนจะลงพื้นที่ที่พรรคได้ ส.ส.เขต 39 เขต เพื่อขอบคุณประชาชนและจะถือโอกาสพูดคุยกับชาวบ้าน แม้ว่าจะอ่านความเห็นจากหนังสือพิมพ์ หรือโซเชียลแล้วก็ตาม ก็อยากจะฟังเสียงประชาชนโดยตรง เชื่อว่ายังมีเวลาอยู่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะทราบความคิดเห็นของประชาชน หลังจากนั้นจะมาประชุม ส.ส.ของพรรคในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคจะต้องมีส่วนในการตัดสินใจในทิศทางของพรรค เพราะเราทำงานเป็นทีม ขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีการติดต่อหรือเจรจาใดๆ คิดว่าทุกคนคงรอการประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้รวมเสียงของ ภท.จัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ไปดูจากไหน ตนยังไม่ได้คุยกับใครเลย ข่าวที่ออกมาอาจเป็นเพราะหลังเลือกตั้งมี 7 พรรค จับมือกันจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่มี ภท.กับประชาธิปัตย์ ก็อาจจะเป็นการรวมกันทางสัญชาติญาณทางการเมือง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ได้คุยกันแล้วหรือยัง คนที่ออกมาให้ข่าวไม่ใช่ระดับผู้มีอำนาจ เพราะขนาดหัวหน้า ภท.กับ ปชป.ยังไม่กล้าพูด รวมทั้งยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกับพรรคอนาคตใหม่ด้วย
“ถ้าดูจากข่าวจะเห็นว่า ภท.ได้กระทรวงอะไรแล้วด้วย ยืนยันว่าไม่มีเรื่องความไม่พอใจของเก้าอี้รัฐมนตรีที่พรรคได้รับ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกับใคร รัฐบาลไม่มีใครเป็นเจ้าของ แล้วเที่ยวไปเขียนข่าวว่าแจกกระทรวงนั้นให้พรรคนี้ แจกกระทรวงนี้ให้พรรคนั้น แจกได้อย่างไรนี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง พรรค ภท.เจียมเนื้อเจียมตัวเพราะเราเป็นพรรคอันดับ 5 ไม่ใช่พรรคใหญ่และทำตามมารยาททางการเมืองทุกประการ พรรคอันดับ 1 ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ถ้าจัดไม่ได้ต้องให้พรรคอันดับ 2 หรือ 3 จัดตั้ง พูดจากประสบการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่เคยมาถึงพรรคลำดับที่ 5” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงแคมเปญการปิดสวิตช์ ส.ว. นายอนุทินกล่าวว่า เคยพูดไปแล้ว ภท.ชัดเจนว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯต้องได้รับความไว้วางใจ เสียงส่วนใหญ่จาก ส.ส.อย่างท่วมท้น ถ้าเสียงส่วนน้อยไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ ส.ส. ไม่รับนายกฯ แล้วจะเอา ส.ว.มาเติม ก็คงไม่มีมือพรรค ภท.
เมื่อถามว่า มีชื่อนายเนวิน ชิดชอบ ช่วยต่อรองโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลเนวิน 1 หรือจะมีได้อย่างไร พูดกันไปเรื่อย นายเนวินอยู่เมืองไทยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เห็นว่าไปเตะบอลต่างประเทศ ตนไม่ได้พบนายเนวินมา 2 สัปดาห์แล้ว พบกันครั้งสุดท้ายในงานกัญชาบุรีรัมย์ การเมืองไทยวันนี้ต้องอยู่นิ่งๆ ใครนิ่งมากก็จะทำให้ทิศทางของประเทศไทยดีที่สุด ไม่ต้องออกมาบอกว่าจะทำอะไร ถ้ารับเงื่อนไขกันได้ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน สนับสนุนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ต้องกังวลว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงมากกว่าพรรคอื่น และเข้าใจการเมืองให้มากแล้วเมืองไทยจะไปได้
“ไม่ติดใจการจัดสรรเก้าอี้ ส.ส.ให้กับ 11 พรรคเล็ก ภท.พอใจกับจำนวน ส.ส.ที่พรรคได้รับและแสดงความยินดีกับ 11 พรรค กฎเกณฑ์เราไม่ได้เป็นคนกำหนด กกต.เป็นคนตัดสินใจคงคิดมาดีแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ ขณะนี้ผ่านการเลือกตั้งมา 2 เดือนแล้ว รีบๆ มีรัฐบาลดีกว่า เป็นสิ่งที่ ภท.อยากเห็นมากที่สุด” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการรับหนังสือรับรอง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้เดินเข้าไปทักทายนายชัย ชิดชอบ พร้อมพูดคุยกับนายอนุทินตอนหนึ่งว่า “ยังไงท่านอนุทิน ท่านชัยไปอยู่ฝั่งประชาธิปไตยด้วยกันนะ ไปทางโน้นเขาไม่ให้อะไรคุณหรอก แต่มาทางนี้ได้เป็นนายกฯ ได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย คุณต้องการอะไรพรรคเพื่อไทยเขาให้หมด ถ้ามาทางนี้ผมพร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่”
นอกจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ยังพยายามถามนายอนุทินอีกว่า “โอเคไหม อยากให้ร่วมฝ่ายประชาธิปไตยไหม อยากร่วมไหม ตกลงนะ” แต่นายอนุทินพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบปฏิเสธหรือตอบตกลงใดๆ
