เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า พรรคเราได้คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ 60,358 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด 224 คน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 26 คน ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ผมเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่เลือกผมมา ดังนั้น ในการดำเนินการอะไรก็ตามที่เคยให้สัญญาไว้กับประชาชนทั้งหมด 10 ข้อ ผมไม่เคยลืม และจะผลักดันอย่างเต็มที่ ในการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ มันเป็นความจำเป็น เพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้ เกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ยื้อกันไปยื้อกันมา มันเสียเวลา ผมไม่ต้องการให้กลุ่มพรรคการเมืองมาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะประเทศไทยเสียโอกาส ตอนนี้คณะรัฐมนตรีเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ปัญหาของประชาชนมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้น ผมและเพื่อนทั้งหมด 11 คน จึงมีฉันทามติในการผ่าทางตันเพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้ ผมไม่ต้องการปิดสวิตช์ประเทศไทย ในฐานะสมาชิกของ 11 พรรคการเมือง ต้องการเปิดสวิตช์ประเทศไทยเพื่อเดินหน้าต่อไป จึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเลที่จะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯรอบที่ 2 ส่วนในการเจรจาต่อรองขั้นต่อไป ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอร้องว่าอย่าต่อรองเยอะ มาร่วมมือกันทำงาน มันเสียเวลา เพราะฉะนั้น หาคนที่มีคุณภาพ มาคุยกัน หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัย และเดินไปข้างหน้า แต่ฝ่ายค้าน ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเสียใจ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มความสามารถ ผมจะเป็นอีกหนึ่งคนที่จะไปช่วยพวกท่านในการตรวจสอบถ่วงดุลพรรคพลังประชารัฐในการบริหารราชการแผ่นดิน
“ดังนั้น ใช่ว่าพวกผมจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ แล้วจะทำอะไรตามใจชอบได้ ยืนยันว่าไม่ใช่ เรื่องที่ถูกต้อง เราสนับสนุน แต่เรื่องที่ไม่ถูกต้อง ต้องคัดค้าน เช่น ไม่ต้องการให้พรรคพลังประชารัฐสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลง ต้องดำเนินคดี ดังนั้น ตนยังยืนว่าจะทำตามนโยบายของพรรค คือการปราบโกง ปกป้องคนจน และจะดำเนินการตามนโยบาย เช่น น้ำมัน 19 บาท หลายเรื่องเราจะทำให้เป็นมรรคเป็นผล เพราะเราไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ทั้งประเทศ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” นายมงคลกิตติ์ระบุ