หลังมีพระราชกฤษฎีเปิดประชุมรัฐสภา กำหนดต่างๆก็เริ่มมีความ แจ่มชัด
นั่นก็คือ วันที่ 24 พฤษภาคม เปิดประชุมรัฐสภา
นั่นก็คือ วันที่ 25 พฤษภาคม ทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา จะมีการประชุมเพื่อเลือกประธาน
ประธานวุฒิสภาเป็นใครนั้นย่อมรู้กันอยู่แล้ว
แสงแห่งสปอตไลต์จึงฉายจับไปยังการประชุมเพื่อเลือกประ ธานสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า เพราะตามรัฐธรรมนูญประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา
อำนาจที่สำคัญก็คือ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโอง การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
นี่คือก้าวแรกของการต่อสู้ในทางการเมือง
ไม่ว่าทางด้านพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าทางด้านพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความแจ่มชัดว่าจะเสนอชื่อบุคคลใดเข้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
มีแต่”ข่าวลือ”ซึ่งปล่อยออกมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ
ในเบื้องต้นวางน้ำหนักไว้ที่ นายสุชาติ ตันเจริญ แต่คล้อยหลังไม่กี่ชั่วโมงก็มีข่าวว่าอาจเป็น นายวิรัช รัตนเศรษฐ
ขณะที่ทางด้านพรรคเพื่อไทยยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด
หากติดตามการเคลื่อนไหวจากด้านพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ตันเจริญ อาจยังไม่แสดงความเห็นใดๆแม้จะอยู่ในฐานะเป็นเต็งหนึ่ง
มีแต่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ออกมากล่าว
ไม่เพียงแต่กล่าวว่าตนเองมีวินัยในการเข้าร่วมประชุมอย่าง เคร่งครัด ไม่เคยลา ไม่เคยขาด และจุดเด่นก็คือ อยู่กับฝ่ายที่เป็น รัฐบาลมาโดยตลอด
คนที่คร่ำหวอดทางการเมืองตั้งแต่ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบย่อมทราบเป็นอย่างดีว่าตั้งใจให้เข้าใจว่าด้านตรงข้ามเป็นใคร
นี่ย่อมสะท้อนอาการเบียดขบภายในพรรคพลังประชารัฐ
ในความเงียบของพรรคเพื่อไทย ในความเงียบของพรรคพลังประ ชารัฐ มั่นใจได้เลยว่าทั้ง 2 ฟากฝ่ายจะต้องปะทะกันในการชิงตำ แหน่ง เพราะนี่คือการยืนยันคะแนนเสียงที่มีอยู่ในมือ
เพราะนี่คือเงาสะท้อนยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลัง ประชารัฐได้พันธมิตรจำนวนมากน้อยเพียงใด
วันที่ 24 พฤษภาคมจึงเป็นดัชนีชี้แนวโน้มในอนาคต