09.00 INDEX สปอตไลต์ฉายจับ 25 พฤษภา ‘พลังประชารัฐ’ รุก หรือ ถอยร่น
วิทยายุทธ์อันเกี่ยวกับตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” กำลัง สะท้อนให้เห็นว่า ระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ
ฝ่ายใดจะเหยียบหิมะไร้ร่องรอยได้มากกว่ากัน
ความแหลมคมอยู่ที่ว่าระหว่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กับ นายสุชาติ ตันเจริญ ใครจะรุก ใครจะถอย
หากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นของ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นั่นเด่นชัดยิ่งว่า นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นฝ่ายถอย
ปมเงื่อนอยู่ที่ว่าตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 กับคนที่ 2 เป็นของพรรคการเมืองใด
วันที่ 25 พฤษภาคมจึงมากด้วยความแหลมคม
ตอนนี้มีความเด่นชัดว่าไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคปวงชนชาวไทยจะจับมือแน่นเหนียว 245
หากแต่พรรคประชาธิปัตย์ 52 พรรคภูมิใจไทย 51 รวมแล้วเท่ากับ 103 ก็จับมือแน่นเหนียว
กระทั่งเป็นไปได้ว่าอาจมี 10 พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นตัวแปร
นั่นเท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักผืนป่า และ 11 ส.ส. 11 พรรคการเมืองมิได้อยู่ในฐานะตัวหลักอีกแล้ว
ตัวเลข 113 จากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมที่จะเป็น”ตัวแปร”
หากตำแหน่งประธานสภาเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ หากตำแหน่งรองประธานสภาเป็นของพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย ก็แสดงอย่างหนึ่ง แต่หากตำแหน่งรองประธานสภาเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ภายใน 7 พรรคต้านคสช. ก็แสดงอีกอย่างหนึ่ง
การเมืองหลังวันที่ 25 พฤษภาคม จะยิ่งเข้มข้น
ท่าทีไม่ยอมให้คำตอบว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยและรวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา จึงเป็นท่าทีที่มิได้ หมายความว่าอำนาจต่อรองจะอยู่ที่คสช.หรือพรรคพลังประชารัฐ
การดำรงอยู่ของ 245 เสียงจาก 7 พรรคการเมืองต้านการสืบทอดอำนาจจึงมีพลานุภาพ
บั่นรอนสถานะของคสช.และพรรคพลังประชารัฐ
