‘ปนัดดา’ปลุกคนไทยนำพาชาติมีเกียรติ ศักดิ์ศรี ชี้ผู้มีอำนาจในอดีตยุแบ่งสี ปากว่าตาขยิบ’หมิ่นสถาบัน’

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษ “70 ปี ภายใต้ร่มพระบารมี” เนื่องในโอกาสการจัดงาน พสบ.เหล่าทัพสัมพันธ์ 59 พลังแห่งความจงรักภักดี ที่ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพไทย ว่า “เห็นพูดกันหลายความเห็น การกล่าวให้ร้ายกันโดยไม่มองถึงที่มาของปัญหา น้องๆ สื่อคุยกับข้าพเจ้า หากถามพี่หม่อมว่า ในกรอบงานที่รับผิดชอบ สิ่งใดบ้างที่แลเห็นดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าตอบว่า ความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีที่จะนำพาประเทศสู่ความเป็นบูรณภาพ (National integrity) มุ่งเสริมสร้างระเบียบวินัยของข้าราชการและสังคม ระบบธรรมาภิบาลของข้าราชการที่ต้องมีความเป็นปึกแผ่นและปลอดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างสิ้นเชิง และเยาวชนที่จะเป็นพลังอันสำคัญของชาติในวันข้างหน้า สิ่งต่างๆ นี้ได้ทำกันมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปี พี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมักมีความพึงพอใจ…ถามข้าพเจ้าว่าเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด ข้าพเจ้าตอบว่า สำคัญเป็นอันดับแรกที่ชาติประเทศจำต้องพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงปัญหาทั้งหลายให้ได้ควบคู่ไปกับเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ”

“ข้าพเจ้าขอพูดตามตรงว่า ผ่านมาเป็นเวลาหลายปี ผู้มีอำนาจปล่อยปละละเลยความรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้โดยสิ้น เพราะมัวแต่มุ่งสร้างชื่อเสียงแก่ตน แก่พรรค แก่ญาติพี่น้อง มากกว่าที่จะคิดเสริมสร้างชื่อเสียงเกียรติคุณแก่ประเทศชาติและประชาชน ยังจำได้ในบางจังหวัดเวลานั้นสมัครเป็นผู้บริหาร อปท. (องค์การปกครองท้องถิ่น) จั่วหัวโปสเตอร์หาเสียงเลือกตั้งที่มาจากพรรคการเมืองเดียวกันมากกว่า 1 คน ประชาชนสับสนเลือกกันไม่ถูก พรรคเดียวกันยังคัดสรรกันเองไม่ได้ ใครบ้างเขาทำกันเช่นนี้ ใครบ้างเดี๋ยวเอาพี่เอาน้อง เอาเขยเอาสะใภ้มายุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ใครบ้างที่เขายุยงเยาวชนให้คิดว่าโกงแล้วไม่เป็นไร เพียงขอให้ร่ำรวยไว้ก่อนหรือรวยได้ด้วยการทุจริตคดโกง แทนที่จะเน้นย้ำในเรื่องเอกลักษณ์ของชาติว่าด้วยความพอเพียงในชีวิต ความมีระเบียบ ความประหยัด ความไม่เห็นแก่ตัว กล่าวให้ร้ายทุกคนหมดเพียงเพราะอยู่กันคนละพรรคคนละสี ซึ่งเรื่องนี้หนักที่สุดและเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจนกระทั่งวันนี้ที่ทำให้สังคมขาดเอกภาพ คือ ผู้มีอำนาจยุยงให้คนในชาติแบ่งแยกเป็นสีเป็นฝ่ายเป็นศัตรู และที่คนไทยมีความเสียใจที่สุด คือ ผู้มีอำนาจกระทำการแบบปากว่าตาขยิบ ปล่อยปละละเลยให้คนของตน พวกของตน พูดจาลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันสำคัญของชาติที่คนไทยรักและหวงแหน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ที่เราทุกผู้ทุกฝ่ายในวันนี้ต้องช่วยกันขบคิดและแก้ไขให้ได้อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นลูกรุ่นหลานสืบไป ช่วยนายกรัฐมนตรีในการนำพาประเทศสู่ความมีบูรณภาพ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความร่มเย็น เสมือนประเทศไทยซึ่งเป็นที่กล่าวขานชมชอบจากนานาอารยประเทศในอดีต” ม.ล.ปนัดดากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image