ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
ช่วงนี้ในแวดวงสนทนาทางการเมือง มี 2-3 คำถามที่ได้ยินและแลกเปลี่ยนคำตอบกัน
คำถามแรก “การเมืองไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไง”
คำตอบโดยสรุปคือ “ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเลย”
ทุกอย่างถูกวางแผนให้เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ด้วยเป้าหมายที่ว่า “ไม่เสียของ” มีการจัดการที่จะควบคุมทุกเงื่อนไข ทุกปัจจัยให้เป็นไปตามเป้าหมายมาตลอด 5 ปีเต็มอย่างเข้มข้นในทุกเรื่อง อย่างทุ่มเท ทุ่มทุนทุกอย่าง
การที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนและจัดการตามแผนไว้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร
หากไม่เป็นไปตามนี้ต่างหากที่จะเป็นเรื่องผิดปกติ
คำถามต่อมาคือ “รัฐบาลที่ประชาชนจำนวนมากอึดอัดกับความรู้สึกว่าได้มาจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมจะอยู่ได้อย่างไร”
เป็นคำถามที่ให้ความรู้สึกว่าต้องการคำตอบว่า “อยู่ยาก”
แต่นั่นเป็นแค่ความอยากของคนที่ตั้งคำถาม เพราะถ้ามองในความเป็นจริงแทบไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้ พวกเขาอยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้ไม่นาน
กฎหมายที่ดีไซน์มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ พร้อมองค์กรและสถาบันที่มีบทบาทในการตีความกฎหมายแสดงออกอย่างชัดเจนตลอดมาว่ามอง “ความยุติธรรม” ในมุมไหน
กองทัพ ทุนใหญ่ ชนชั้นนำ และอื่นๆ ชัดเจนว่ามีทรรศนะในทางบวกต่อฝ่ายไหน และทรรศนะเชิงลบต่อฝ่ายไหน
หากมองที่พลังชนชั้นกลางที่เชื่อว่าน่าจะกำหนดความเป็นไปทางการเมือง
ธรรมชาติของการดิ้นรนเพื่อยกระดับชนชั้นของตัวเองที่ถูกปรนเปรอด้วยประโยชน์ตอบแทนในความเป็น พวกพ้อง
และกีดกันหากยืนอยู่อีกฝาก
คำตอบพิสูจน์แล้วว่าที่สุดแล้วพวกเขาจะเลือกอะไร
สำหรับประชาชนทั่วไปที่เชื่อว่าจะเป็นพลังความเปลี่ยนแปลงนั้น จะเปลี่ยนสถานะจากผู้ดูมาเป็นผู้เล่นก็มีแต่ “เกมนอกสภา”
อดีตหมาดๆ พิสูจน์ให้ประจักษ์ชัดแล้วว่า ผู้ที่ปรารถนาเกมบนท้องถนนมากกว่าเกมในระบบ เป็นพวกเขา
ประชาชนไม่เคยชนะเกมบนท้องถนน มีแต่สูญเสียและเจ็บร้าว
หากจะมองว่าสังคมออนไลน์จะท่วมไปด้วยอารมณ์อัดอั้น อึดอัด จะส่งแรงสะเทือนจนเกิดความเปลี่ยนแปลง
นั่นเป็นเรื่องมองผิด เพราะไม่มีใครสน
การได้ระบายในโลกออนไลน์น่าจะเป็นช่องทางลดความอัดอั้น ซึ่งเป็นผลดีด้วยซ้ำไป
และที่เป็นประโยชน์มากคือ ทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร ใครคิดอย่างไร แรงแค่ไหน ใครทำท่าจะมีพลังกดดันขึ้นมา
ถึงเวลาจัดการจะเป็นเรื่องง่าย
คำตอบสรุปของคำถามนี้คือ “อยู่ได้สบาย”
อีกคำถามคือ “อย่างนี้จะอยู่นานได้หรือ”
คำตอบก็คือ “แล้วยังเหลืออะไรที่ทำให้อยู่ไม่ได้”