09.00 INDEX ความเป็นจริง ใน ประชาธิปัตย์ จุดหนักใจ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
การต่อสู้ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวช ชาชีวะ กับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ไม่ว่าระหว่าง นายจุรินทร์ ลักษ ณวิศิษฎ์ กับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
คือ เงาสะท้อนของความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ภายในสังคมประ เทศไทยที่ดำรงอยู่ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
และต่อเนื่องมายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
พรรคประชาธิปัตย์อาจมองว่าไม่ใช่เพราะว่าคู่ขัดแย้งแท้จริงของพรรคเป็น“ระบอบทักษิณ” เป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ที่ทุกวันนี้คือพรรคเพื่อไทยต่างหาก
แต่ถ้าเมื่อใด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นั่งขบคิดและพิจารณาอย่างถ่องแท้
ก็จะรู้ว่าปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์คือปัญหาสังคมไทย
คำถามที่ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ตระหนักรู้เป็นอย่างดีก็คือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นตัวแทนของใคร
ลองสาวลงไปให้ลึกก็จะประจักษ์ว่ามีความสัมพันธ์แนบแน่น อยู่กับ นายถาวร เสนเนียม
แล้ว นายถาวร เสนเนียม สัมพันธ์กับใคร คิดอย่างไร
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าสัมพันธ์กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อันเป็นผู้นำบารมีแห่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่ไม่เพียงโยงยาวไปยังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากโยงยาวไปยังคสช.
จึงประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ต่อท่ออำนาจ ผ่านตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ตัวตนของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ตัวตนของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จึงแยกไม่ออกจาก นายถาวร เสนเนียม จึงแยกไม่ออกจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแยกไม่ออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ต้องยอมรับว่าบารมีของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสน เนียม แม้จะอยู่ในสถานะต้องพ่ายแพ้ แต่ก็ยังดำรงอยู่อย่างหนา แน่นและเป็นจริง
ตรงนี้เองที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรอบคอบ รัดกุม
จะปฏิเสธความเป็นจริงนี้ก็ทำไม่ได้ ขณะเดียวกัน ก็จำเป็น ต้องรักษาสถานะและเกียรติภูมิของพรรคประชาธิปัตย์เอาไว้
จึงต้องตัดสินใจแบบ”รัฐบุรุษ” มิใช่ตัดสินใจแบบนักการเมือง
