เปิดชีวิต ผลงาน รัฐบุรุษ พลเอกเปรม อสัญกรรมในวัย 99 ปี

พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463  ที่ตำบลบ่อยาง  อำเภอเมือง  จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) และนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์)  เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2469 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา หมายเลขประจำตัว 167  สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  เมื่อปี พ.ศ.2478  เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 – 8 แผนกวิทยาศาสตร์  ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  หมายเลขประจำตัว 7587 ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ณ โรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) เมื่อปี พ.ศ.2481  โดยเข้ารับการศึกษาเป็นรุ่นที่ 5 มีเพื่อนร่วมรุ่น 55 นาย สำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2484 ใช้เวลาเพียง 3 ปี ไม่ครบ 5 ปี ตามหลักสูตร  เนื่องจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับฝรั่งเศสขึ้น จึงจำเป็นต้องให้นักเรียนนายร้อยออกรับราชการก่อนกำหนด

เริ่มรับราชการเป็นผู้บังคับหมวด ประจำกรมรถรบ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2484 ปฏิบัติหน้าที่ ณ สมรภูมิรบปอยเปต ประเทศเขมร ในกรณีพิพาทในอินโดจีนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฝรั่งเศส และได้รับแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ร้อยตรี (รับกระบี่ในสนามรบ) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2484

พ.ศ. 2485 – 2488  เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา จึงได้รับคำสั่งให้ไปประจำการเป็นกองหนุนของกองทัพพายัพ จังหวัดลำปาง ต่อมากองทัพเคลื่อนย้ายไปอยู่เชียงราย และได้รับคำสั่งให้ไปขึ้นอยู่กับกองพล.3  ที่เชียงตุง จนได้เลื่อนยศเป็น ร้อยเอก และเป็นผู้บังคับกองร้อยที่ลพบุรี

Advertisement

พ.ศ. 2489 – 2492 เป็นผู้บังคับกองร้อยที่ 2 กองพันที่ 1 กรมรถรบ ได้เข้าศึกษาเป็นนายทหารฝึกหัดราชการ โรงเรียนนายทหารม้า เมื่อจบการศึกษาได้กลับมารับตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยเดิม และรักษาราชการผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมรถรบ

1 กรกฎาคม 2492  ได้รับพระราชทานยศ “พันตรี”

Advertisement

พ.ศ. 2493 เป็นผู้บังคับกองร้อยที่ 3 กองพันทหารม้าที่ 4 จังหวัดอุตรดิตถ์  รองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 4 และรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์อีกตำแหน่งหนึ่ง

พ.ศ. 2495 ได้รับทุนจากกองทัพบกโดยการสอบแข่งขันได้ไปศึกษาต่อที่ The United States Army Armor School รัฐเคนตักกี้  ประเทศสหรัฐอเมริกา  สำเร็จการศึกษาเมื่อต้นปี พ.ศ. 2497  กลับมารับราชการเป็นอาจารย์ในแผนกวิชายุทธวิธี  กองการศึกษา  โรงเรียนยานเกราะ  กองพลน้อยทหารม้า (กรุงเทพฯ)

30 มกราคม 2497  ได้รับพระราชทานยศ “พันโท”

พ.ศ. 2497 – 2498  เป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 5  กรมทหารม้าที่ 2  และเป็นอาจารย์หัวหน้าแผนกวิชาทหาร  กองการศึกษา  โรงเรียนยานเกราะ

1 มกราคม 2499  ได้รับพระราชทานยศ “พันเอก”

พ.ศ. 2501  เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า จังหวัดสระบุรี  เป็นรองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ  ศูนย์การทหารม้า

พ.ศ. 2506  เป็นรองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้า  ศูนย์การทหารม้า  และเป็นรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก  สระบุรี

พ.ศ. 2509 – 2510  เข้าศึกษาในวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 9 (ยศพันเอก)  เดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี

1 ตุลาคม 2511 ได้รับพระราชทานยศ “พลตรี” และให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า” และ “ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี” พ.ศ. 2512 เป็นองครักษ์เวร เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์

1 ตุลาคม 2516  เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 จังหวัดสกลนคร

1 ตุลาคม 2517  ได้รับพระราชทานยศ “พลโท” และดำรงตำแหน่ง “แม่ทัพภาคที่ 2” พ.ศ. 2518  เป็นราชองครักษ์พิเศษ

1 ตุลาคม 2520 ได้รับพระราชทานยศ “พลเอก” และดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ทั่วไปฝ่ายทหาร

พ.ศ. 2521  เป็นผู้บัญชาการทหารบก  จนเกษียณอายุราชการ  เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2523  และคณะรัฐมนตรีได้มีมติต่ออายุราชการอีก 1 ปี 26 สิงหาคม 2524 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้อำลาการรับราชการทหาร

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2523  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์  ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 16 ของประเทศไทย  โดยก่อนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เริ่มรับราชการทางการเมืองโดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2511  เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2515 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน2520 และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ต่อมา เมื่อวันที่ 22พฤษภาคม 2522  พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 3 มีนาคม 2523 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2531 รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง มีคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 5 ชุด รวมเวลาทั้งสิ้น 8 ปี 5 เดือน หลังจากการปฏิเสธการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2531 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศยกย่อง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ไว้ในฐานะรัฐบุรุษ และเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541 จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นประธานองคมนตรีในสมัยรัชกาลที่ 9 จนถึง วันที่ 13 ตุลาคม 2559  จากนั้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม – 1 ธันวาคม 2559  และดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี ในสมัยรัชกาลที่ 10 ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา

เยือนสหภาพพม่า กรกฎาคม 2523
เยือนสหภาพพม่า กรกฎาคม 2523
เยือนสหภาพพม่า กรกฎาคม 2523
เยือนสหภาพพม่า กรกฎาคม 2523

กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ได้รับแจ้งว่า พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ สิริอายุ 99 ปี

ภาพและข้อมูลจาก : หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พบเอกเปรม ติณสูลานนท์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image