ส.ส.จากภูมิใจไทย คว้าเก้าอี้ รองประธานสภาฯคนที่ 2

“ศุภชัย” ลอยลำ หลังชนะขาด “ประสงค์” นั่งรองประธานสภาฯคนที่ 2 ด้าน พท.ท้วงวุ่น หลังมีคนเขียนนามสกุลผิด – ถ่ายคลิป บัตรนับคะแนน

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เวลา 14.15 น. การประชุมสภาฯ เปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ คนที่2 โดยร.อ.ธรรมนัศ พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และนายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ เสนอ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย จากนั้น ให้สมาชิกลงคะแนนลับ จนกระทั่งเวลา 15.45 น.คณะกรรมการเริ่มนับคะแนนโดยน.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทปราการ พรรคพลังประชารัฐ ได้ขานคะแนนใบแรกโดยเรียกชื่อนายศุภชัย ใจสมุทร ทำให้น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่าควรพิจารณาให้เป็นบัตรเสีย เพราะคนละนามสกุลกันกับผู้ลงสมัคร แต่น.ส.ไพลิน วินิจฉัยเองว่าแม้จะใส่นามสกุลผิด แต่ชื่อถูก ดังนั้น ต้องดูที่เจตนา เพราะการเลือกประธานสภาฯที่ผ่านมาก็ขานแค่ชื่อก็ได้แล้ว และได้นับคะแนนต่อไป แต่เมื่อนับคะแนนมาได้ครึ่งทาง น.พ.ชลน่านประท้วงอีกว่าการนับคะแนนครั้งนี้ผิดปกติ เพราะผู้สังเกตุการณ์มีการถ่ายคลิป และรูปภาพขณะนับคะแนน และเห็นว่าชื่อผู้ถูกเสนอชื่ออยู่บรรทัดบน แต่นามสกุล อยู่บรรรทัดล่าง จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าบัตรที่ลงคะแนนเป็นของใครหรือไม่ อยากให้ประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัยว่า การถ่ายภาพ และวิดีโอระหว่างการนับคะแนนทำได้หรือไม่

ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า เป็นการถ่ายภาพเพื่อวางบิลกันหรือไม่ ขอให้ประธานฯวินิจฉัยว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการประชุมลับหรือไม่

ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การนับคะแนนในวันนี้ลับจริงหรือไม่ ประธานฯมีหน้าที่ต้องวินิจฉัย เพราะการถ่ายภาพบางพรรคอาจนำไปตรวจสอบว่า ผู้มาลงคะแนนครบถ้วนจริงหรือไม่ ส่วนการจงใจเขียนชื่อ และนามสกุลผิด ต้องเป็นบัตรเสีย ซึ่งในบัตรใบแรกมีการระบุชื่อว่า “นายศุภชัย ใจสมุทร” ไม่ใช่ “นายศุภชัย โพธิ์สุ”

Advertisement

“ขณะนี้ผมเชื่อว่า มีความพยายามทำให้การลงมติลับของสมาชิกไม่ลับ เพราะมีการทำสัญลักษณ์บางประการหรือไม่ และหากนับโดยเปิดเผย เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้วขอดูบัตรก่อนทำลายได้หรือไม่” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายชัย ชิดชอบ ในฐานะประธานชั่วคราว กล่าวว่า ตอนลงคะแนนคือลับ ส่วนตอนนับคะแนนต้องเปิดเผย ตนขอดำเนินการนับคะแนนต่อให้เสร็จแล้วค่อยว่ากัน จากนั้น การนับคะแนนจึงดำเนินต่อไป และเมื่อนับคะแนนเสร็จปรากฎว่า นายศุภชัยได้ 256 คะแนน ส่วนนายประสงค์ ได้ 239 คะแนน ทำให้นายศุภชัย ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการนับคะแนนเสร็จสิ้น นพ.ชลน่าน ได้ลุกขึ้ทักท้วงขอให้ประธานฯวินิจฉัยบัตรใบแรกที่เขียนชื่อสกุลผิด ว่าตกลงแล้วเป็นบัตรเสียหรือไม่ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการนับคะแนนว่ามีความถูกต้องหรือไม่ ขณะที่ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องเล็กน้อยอยากให้ผ่านไป เพราะถ้ายกให้ได้สัก 5 คะแนนก็จะยกให้ ทำให้ นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงโดยระบุว่า อย่าย่ำยีหัวใจกันเกินไป ในสภานี้ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ตนไม่สบายใจที่บอกจะยกคะแนนให้ ขอให้ถอนคำพูดดังกล่าว

Advertisement

แต่นายชัย ชี้แจงว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อบังคับการประชุมที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการนับคะแนนได้ จึงไม่สามารถดำเนินการตามที่ต้องการได้ จากนั้น ประธานฯสั่งปิดการประชุมในเวลา 17.45 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image