‘วีระกานต์’เสียใจ’พล.อ.เปรม’สิ้น ยันเคารพตั้งแต่แรก-‘เต้น’ระบุไม่ใช่ประเด็นส่วนตัวแต่เรื่องหลักการ

“วีระกานต์”เสียใจ “พล.อ.เปรม” ถึงแก่อสัญกรรมพร้อมไปงานศพยันเคารพตั้งแต่แรก “ณัฐวุฒิ”ระบุที่ผ่านมาไม่ใช่ประเด็นส่วนตัวเป็นเรื่องของหลักการ ระบุสูญเสียครั้งใหญ่

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.968/2561 ที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กับพวกรวม 10 คน เป็นจำเลย

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 14 เม.ย. 2552 กลุ่ม นปช. จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก. บริหารราชการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา โดยจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับประกันตัว

วันนี้นายวีระกานต์เดินทางมาศาล โดยให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถึงแก่อสัญกรรม ว่า รู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา ป๋าเป็นที่เคารพนับถือตั้งแต่แรก เป็นสัจธรรม ชีวิตเกิดขึ้น ดำรงอยู่ แล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา ก็ต้องทำใจว่าเป็นธรรมชาติ ส่วนตัวก็จะเดินทางไปฟังสวดศพด้วย

Advertisement

เมื่อถามว่าหลายเหตุการณ์ในอดีตที่กระทบกระทั่งพูดถึง จะมีการไปขอขมาหรือไม่ นายวีระกานต์ กล่าวว่า เรื่องที่จะต้องพูดกันเอาไว้โอกาสหลัง เรื่องยาวต้องใช้เวลา ไม่สามารถพูดสั้นๆ ได้ วันนี้ก็เสียใจอย่างสุดซึ้ง ต้องอโหสิกรรมอยู่แล้ว อะไรที่เป็นบทเรียนก็ต้องเก็บไว้ไม่ให้มันเกิดต่อไป


โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีถึงแก่อสัญกรรม ว่าในฐานะที่ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง วาระที่ท่านถึงแก่อสัญกรรม ก็ต้องแสดงความเสียใจและแสดงความอาลัย โดยกระบวนการเคลื่อนไหวต่างๆ ของพวกเราที่ผ่านมา เราก็ได้พูดชัดมาตลอดว่าไม่ได้มีประเด็นส่วนตัวกับใคร เป็นเรื่องของหลักการและสถานการณ์ ซึ่งต้องแยกให้ชัดว่าเป็นมิติของการต่อสู้ทางการเมืองและหลักการประชาธิปไตย แต่ในทางส่วนตัวในวาระที่ท่านถึงแก่อสัญกรรม ประชาชนก็พึงที่จะแสดงความอาลัยกับการสูญเสียครั้งสำคัญยิ่งในครั้งนี้

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงบรรยากาศในสภาผู้แทนราษฎร 2 วันที่ผ่านมา ว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งว่างเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่มากว่า 5 ปี เมื่อสภาเปิดก็ต้องแสดงบทบาท ชิงไหวพริบ และการพยายามสร้างความได้เปรียบทางการเมืองในฝ่ายของตนเอง ซึ่งตนไม่อยากให้ประชาชนมองว่าเป็นเรื่องอึดอัด รำคาญใจ หรือคิดว่าการเมืองจากการเลือกตั้งคือการทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งความจริงแล้วสภาเป็นตัวแทนจากการเลือกตั้งของประชาชน จะได้ถกเถียงกัน เมื่อมีข้อยุติตามกฎกติกาอย่างไรก็ต้องเดินหน้าไปตามนั้น ถ้ามันจะวุ่นวายก็มาจากเจตนาของคนบางกลุ่มที่ต้องการใช้สภาจากการเลือกตั้งตอบสนองต่อเป้าหมายทางการเมือง ต่อรองกันไม่รู้เรื่อง จัดสรรอำนาจและแบ่งผลประโยชน์กันยังไม่ลงตัว ตนก็อยากให้กำลังใจ ส.ส. ทุกท่านที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ตนคิดว่าการทำหน้าที่ในสภาทำตามระบบ ทำให้ประเทศยังมีความหวัง แม้การเริ่มต้น 2 วันแรกด้วยความสับสนอลม่าน การต่อสู้กันนอกสภากว่า 10 ปีที่ผ่านมามันอธิบายชัดเจนแล้วว่าไม่มีฝ่ายใดชนะกันจริงๆ มีแต่ความเจ็บปวด เสียหายและสูญเสีย ดังนั้นเมื่อสภากลับมา ตนในฐานะเป็นประชาชนคนหนึ่ง ก็ขอฝากความหวังกับคนที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนต่อสู้อย่างถึงที่สุด ภายใต้กระบวนการรัฐสภา เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย นำประเทศกลับคืนสู่ทิศทางที่ถูกต้องให้ได้

Advertisement

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า กรณีที่พรรค พปชร.จะนำขบวนขันหมากไปสู่ขอพรรค ปชป.และพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาล ว่า ตนยังจำท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. คนเก่าได้ดี ซึ่งพูดและอัดคลิปออกเผยแพร่แก่ประชาชน ยืนยันชัดเจนจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตนยังจำท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพูดก็เข้าใจได้ว่าจะยืนยันหลักการประชาธิปไตยหลังการเลิกตั้งครั้งนี้ ดังนั้นฉากการเมืองในวันนี้น่าสนใจว่าทั้งสองพรรคจะแสดงออกอย่างไร ถ้า ปชป. กล่าวอ้างว่าที่นายอภิสิทธิ์พูดในฐานะหัวหน้าพรรคตอนเลือกตั้งเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารชุดใหม่ไม่ต้องรับผิดชอบ ก็พูดมาให้ชัด ประชาชนจะได้รู้ว่าเล่นเกมกันแบบนี้ และตนอยากเห็นด้วยว่าหากพรรค ปชป. ตอบรับร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร. นายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นยืนในสภาแล้วขานชื่อโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทั้งหมดมีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว การยกขันหมากเทียบเชิญในวันนี้ก็เป็นเพียงละครทางการเมืองฉากหนึ่ง ให้ภาพออกมาดูสมบูรณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image