‘พิชัย’ ห่วง การเมืองย้อนยุค ต่อรองผลประโยชน์โดยไม่คำนึงอนาคตประเทศ คาด คอร์รัปชั่นพุ่ง อาจสร้างเงื่อนไขปฏิวัติ วงจรอุบาทว์กลับมาใหม่
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในรัฐสภา ทำให้ห่วงว่าการเมืองไทยจะย้อนยุคไปเหมือนกับในอดีตหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ประกอบด้วยพรรคการเมืองจำนวนมาก และพรรคการเมืองต่างก็ต่อรองผลประโยชน์สำหรับกลุ่มตน และมุ่งแต่กอบโกยผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงประเทศและประชาชน ซึ่งในอดีตประเทศไทยเคยเจอปัญหามาแล้ว และได้พยายามแก้ไขเรื่องนี้จึงมี รัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นมาเพื่อสร้างให้พรรคการเมืองแข็งแรงที่จะออกนโยบายดีๆ ให้กับประชาชนได้ แต่ตอนนี้กลับย้อนอดีตทำให้พรรคการเมืองอ่อนแออีก และเศรษฐกิจไทยก็จะยิ่งทรุด ประชาชนก็จะยิ่งลำบาก
“ยิ่งรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ พรรคร่วมรัฐบาลจะยิ่งสร้างความปั่นป่วนเพื่อต่อรอง อีกทั้งกลุ่มต่างๆ อาจจะจ้องแต่การกอบโกยผลประโยชน์ เนื่องจากไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานขนาดไหน แนวคิดที่จะพัฒนาประเทศระยะยาวจึงไม่มี มีแต่แนวคิดระยะสั้นที่จะกอบโกยผลประโยชน์กันเท่านั้น อีกทั้งพรรคต่างๆ อาจจะต้องหาทุนเพื่อการเลือกตั้งคราวหน้าที่อาจเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ซึ่งจะทำให้การคอร์รัปชั่นพุ่งขึ้นสูง เชื่อได้ว่าจะมีการพบและเปิดเผยการทุจริตที่จะเกิดขึ้นกันอย่างมากมาย ทั้งนี้ ต้องตำหนิรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ร่างขึ้นใหม่นี้ ที่ต้องการทำให้เกิดปัญหาทั้งหมดนี้ ทำให้ประเทศไทยล้าหลัง และต้องถอยหลังกลับไปอีกหลายสิบปี”
นายพิชัยกล่าวว่า นอกจากนี้หากรัฐบาลผสมที่มีพรรคการเมืองร่วมกันหลายพรรคเริ่มตีรวนหรือกอบโกยผลประโยชน์มากๆ ก็จะเปิดช่องสร้างเงื่อนไขให้มีการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจกันอีก โดยอ้างว่ามีปัญหานักการเมือง และการทุจริตคอร์รัปชั่นจำนวนมาก จนอาจเกิดเป็นวงจรอุบาทว์ในการเมืองไทยอย่างไม่รู้จักจบสิ้น จึงอยากให้ข้อคิดเพื่อแก้ไขกันก่อนที่ประเทศจะย่ำแย่ลงต่อไปอึก
