‘ทยา’ ฉะ ‘ลูกนัท ปชป.’ ส.ส.สอบตก เด็กเมื่อวานซืน โชว์เขลาที่สาธารณะปมยุบสภา

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ภรรยานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้ขอความทางเฟซบุ๊ก ตอบโต้ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความ ระบุว่า

หากโพสต์นี้กล่าวถึงคนที่ให้สัมภาษณ์ในรายการเนชั่นทันข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ค. เกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ก็อยากจะบอกเด็กเมื่อวานซืน ซึ่งเป็น ส.ส.สอบตก ได้คะแนนเพียงแค่ 8,494 คะแนน เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ว่า

1.ก่อนจะเขียนอะไรที่แสดงความไร้วุฒิภาวะ ควรไปฟังและอ่านทุกตัวอักษรก่อนที่จะมาโชว์ความเขลาทางปัญญาในที่สาธารณะชน ว่าณัฏฐพลไม่ได้พูดเรื่องการยุบสภาแต่อย่างใด และยังให้เกียรติพรรคร่วมมีเวลาในการตัดสินใจเพราะเป็นเรื่องภายในพรรค

2.ถ้าอยากจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ น้ำดี ก็ควรทำตัวให้น่าเคารพ ใช้ภาษาในที่สาธารณะอย่างสุภาพแม้มีความเห็นต่าง

Advertisement

3.การที่ครอบครัวมีสตางค์ เรียนจบเมืองนอกเมืองนา (เอ๊ะ แต่รู้สึกปริญญาตรีก็ไม่รู้จบยังนะ!) ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถพูดจาดูถูกคนอื่นได้

4.อยากฝากบอกว่า New Dem มีหลายคนที่มีความคิด มีความรู้จริง และมีการแสดงออกอย่างสุภาพ ในหลักการในสิ่งที่พวกเค้าเชื่อไม่ว่าจะเป็นพรหม ไอติม หมอเอ้ก ซึ่งการมีความเห็นต่างทางการเมือง เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่น้องๆ เหล่านั้นแสดงออกอยากมีหลักการและสุภาพชน ผิดกับเด็กบางคน ที่เอาความผิดหวัง ความไม่ได้อย่างใจ มาแสดงออกด้วยความก้าวร้าว

5.ถ้าอยากจะพูดถึงใคร ก็แมนๆ ไปเลย เอ่ยชื่อออกมา ไม่ต้องเป็นนักเลงคีย์บอร์ดแบบอีแอบ กลเราๆ กลัวๆ ครั้งแรกพูดคำว่า “เ..ือก” น่าจะหมายถึงตัวดิฉัน (เมื่อหลายเดือนก่อน) ส่วนอีกครั้ง ก้อใช้คำว่า “เ..ือก” อีก น่าจะหมายถึงตัวณัฏฐพล ฝากบอกนะ นักการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะเค้าไม่ใช้ศัพท์แสงหยาบคายออกสื่อกัน มันโชว์หลายๆ อย่าง

Advertisement

6.ส่วนตัวรู้จักกับคุณแม่และคุณน้าของธนัตย์ดีตั้งแต่เรายังเด็กและให้ความเคารพทั้งพี่แหมว พี่บอยเสมอ แต่เห็นลูกชาย/หลานชายทำตัวกร่างอย่างนี้ บอกตรงๆ ว่า “เห็นใจค่ะ”

7.เสียดายที่เมื่อก่อนเคยร่วมเวที กปปส.ด้วยกัน ธนัตย์ชอบมาขอขึ้นรถเวลาเราปราศรัย มาขอพูดบนเวทีเรายังคิด เออ เด็กหนุ่มคนนี้มีความกล้า มีอุดมการณ์ดี หลังจากม็อบจบ ที่บ้านเราจะมีแก๊งคนรักหมา พาสุนัขมาเล่นน้ำกันทุกวันอาทิตย์ ธนัตย์มักจะขอมาแจมด้วยทุกครั้ง บางทีแก๊งมอเตอร์ไซค์ออกไปขี่รถเล่นกัน ธนัตย์ก็จะมาขอไปด้วย ถ้ารู้ว่าเด็กก้าวร้าวคนนี้จะเล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ลักษณะนี้ คงไม่ให้เข้าบ้านแต่แรก! จริงๆน่าจะรู้ตั้งแต่วัยรุ่นคึกคะนองคนนี้เคยขับรถพอร์ชพุ่งเข้าชนเวทีเสื้อแดงเมื่อ 10 ปีแล้ว! (สรุปไม่รู้ว่าอยากเล่นการเมือง หรือ อยากดัง??)

8. ใช่ สภาไม่ใช่โรงละคร เพราะธนัตย์ไม่ได้เข้าไปนั่งในสภา ไม่งั้นมัน คือ โรงละครแน่นอน

สุดท้าย อยากจะบอกว่า จริงๆ พยายามอดทนกับพฤติกรรมการใช้วาจาของเด็กคนนี้มาซักพัก และไม่อยากลดตัวลงไปให้ค่ากับ “เด็กมีปัญหา ที่อยากดังในเวทีการเมือง เพราะยังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันด้วยตัวเอง ยืนอยู่ได้เพราะความสำเร็จของพ่อแม่” แต่คราวนี้มีการพาดพิงชัดเจน เลยต้องออกมาชี้แจง ส่วนจะเข้าใจหรือไม่ อันนี้คงคาดหวังยาก

ท้ายสุด…ฝากธนัตย์ไปฟังคำให้สัมภาษณ์ของณัฏฐพลอีกครั้ง ถ้าฟังไม่เข้าใจ อ่านการถอดเทปสัมภาษณ์ข้างล่างนี้ เผื่อจะตาสว่างขึ้นบ้าง #หมดเวลาเกรงใจ #โพสต์นี้ไม่เกี่ยวกับปชป. #ส่วนตัวล้วนๆ

ณัฏฐพลสัมภาษณ์และตอบคำถามพิธีกรมีใจความหลักดังนี้

1. เราผ่านขั้นตอนการเลือกประธานสภามาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี

2. พรรคพลังประชารัฐไปเชิญและเราให้เกียรติทุกพรรคการเมืองที่เราไปเชิญมาร่วมบริหารรัฐบาล ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการปรึกษาหารือกัน เพราะแต่ละพรรคก็มีความประสงค์จะผลักดันนโยบายที่เคยให้ไว้ต่อประชาชน

3. ผมมั่นใจว่าน่าจะมีการปรึกษาหารือและแนวทางทำงานร่วมกันได้ก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรี

4. โดยที่คุณสันติสุขได้ถามช่วงท้ายรายการ ถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย หากหาแนวทางทำงานกันไม่ลงตัว แม้ได้นายกรัฐมนตรีแล้ว และนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา เป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบว่า “ผมไม่อยากให้สถานการณ์ไปถึงจุดตรงนั้น เพราะประชาชนได้มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ไม่อยากให้การเดินไปข้างหน้าสะดุด แต่หากเป็นความจำเป็นก็เป็นดุลยพินิจของท่านนายกรัฐมนตรี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image