เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมสัมมนากับคณะกรรมการญาติพฤษภา 35 ในหัวข้อ “เสวนาโต๊ะกลม ข้อเสนอของประชาชน ต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี” ที่จัดขึ้นที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ร่วมกับ นักวิชาการ และนักการเมืองหลายคน ทั้งๆ ที่การร่วมสัมมนาครั้งที่แล้ว ตนถูกดำเนินคดีและคดียังค้างอยู่ที่สำนักอัยการ ในการเสวนาต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โดยมีการเสวนา การดูด ส.ส.ในวิธีต่างๆ หรือการดูด ส.ส. 4.0
นายพิชัยกล่าวว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจและสะท้อนความจริงเป็นสิ่งจำเป็นในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปกป้อง และเชื่อว่าสำนักอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้
“ไม่อยากเห็นประเทศนี้อนุญาตให้เผด็จการเขียนกฎหมายเอง และเปลี่ยนกฎหมายไปเรื่อยๆ เองตามความต้องการเพื่อสนองตัวเองและพวกพ้อง แล้วอ้างว่าคนอื่นทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็ไม่ต่างจากพวกเผด็จการหมู ที่เปลี่ยนกฎของฟาร์มไปเรื่อยๆ เพื่อสนองพวกพ้องของตนให้มีความสุขสบาย ในขณะที่สัตว์อื่นๆ กลับลำบากและย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ในหนังสือแอนิมอล ฟาร์มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แนะนำเอง ก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้อ่านและสะท้อนสภาวะของตัวเองด้วย” นายพิชัยกล่าว และว่า ในการเสวนาครั้งนี้ ได้กำหนดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ใน 3 ด้าน คือ ความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ และความสามารถ ซึ่งในวงเสวนาจะชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อในทุกกรณี โดยตนจะชี้ให้เห็นว่าในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ไทยกลับมีผู้นำที่ขาดความรู้ ขาดความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ แถมยังไม่เข้าใจสภาวะที่เป็นจริง ขนาดสอนให้คนอ่านแอนิมอล ฟาร์ม ทั้งๆ ที่เรื่องนี้สะท้อนปัญหาระบอบเผด็จการในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัดที่สุด จึงอยากเชิญชวนให้สื่อมวลชน และประชาชนเข้าร่วมฟังกัน
