เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นางอังคณา นีละไพจิตร. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit ถึงกรณีทำร้ายร่างกาย จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยระบุว่า กรณี #เอกชัย #จ่านิว กับความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และหลักนิติรัฐ
เคยเขียนถึงความกังวลต่อกรณี #เอกชัยหงส์กังวาน ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่ง ที่มักแสดงความเห็นต่างจากรัฐถูกบุคคลนิรนามทำร้ายร่างกายหลายต่อหลายครั้งในที่สาธารณะ โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้แม้แต่คนเดียว ทำให้เหตุการณ์การละเมิดสิทธิเช่นนี้เกิดกับคนอื่นๆตามมา เช่นกรณี #จ่านิวสิรวิชญ์ ที่ถูกคนลอบทำร้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้ง #เอกชัย และ #จ่านิว มักมาร้องเรียนกับ กสม.หลายต่อหลายครั้งให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการใช้สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของเขาและเพื่อนๆ ในสายตาคนบางคน เอกชัย และจ่านิว อาจเป็นพวกก่อกวน ชอบแสดงความเห็นที่แตกต่าง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ในฐานะพลเมือง เอกชัยและจ่านิวย่อมต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ในการที่เขาใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และจะต้องไม่ถูกทำร้ายจากการใช้เสรีภาพนั้น หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ความไม่อดทนต่อความคิดเห็นที่แตกต่างของคนบางคนบางกลุ่มนำมาซึ่งความเกลียดชัง และอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (hate crime) #การบังคับใช้กฎหมายที่ขาดประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมลอยนวลพ้นผิด และเกิดการกระทำซ้ำกับผู้ที่เห็นต่างอย่างต่อเนื่อง
การที่เอกชัย หงส์กังวาน ถูกทำร้าย รวมเผารถ 9 ครั้ง 9 คดีแล้วไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้เป็นความท้าทาย และการบั่นทอนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างมาก รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจ่านิวเมื่อคืนที่ผ่านมา สังคมไทยควรตั้งคำถามว่าเราจะอดทนให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้อีกสักกี่ครั้ง หรือจนกว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา หรือคนที่เรารัก สำหรับคนที่ศึกษาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กรณี รวันด้า เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าก่อนจะเกิดสงครามกลางเมืองที่ประชาชนลุกขึ้นมาฆ่ากันตายเป็นล้านๆ คน ก็เริ่มจากจุดเล็กๆ จากความเกลียดชังคนที่ต่างจากตน เห็นว่าถึงคนเหล่านี้จะถูกทำร้าย บาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็เป็นการสมควรจึงไม่มีใครต้องสนใจ
ทั้ง #เอกชัย และ #จ่านิวสิรวิชญ์ ต่างเป็นพลเมืองไทย ที่ต้องได้รับความคุ้มครองโดยรัฐ รัฐต้องให้หลักประกันว่าจะต้องไม่มีใครถูกทำร้ายจากการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสันติ รัฐต้องยุติการลอยนวลพ้นผิดไม่ว่าผู้ก่ออาชญากรรมจะเป็นใครก็ตาม #StopHateCrimes #CivilPoliticalRights #EndImpunity
