“ภูมิธรรม” แจง 7 พรรคร่วม ให้ พท.-อนค. เคาะส่งใครเป็นนายกฯ ชี้ หลังประชุมพรรคพท. จะแจ้งความชัดเจนให้ อนค. เชื่อ “หญิงหน่อย” ไม่อยากตระบัดสัตย์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิปชั่วคราวของพรรคพท. ความพร้อมของ 7 พรรคการเมืองในการเสนอชื่อบุคคลเข้าร่วมโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ในช่วงเช้าวันนี้พรรคพท.มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และคณะกรรมการชุดต่างๆ และจะหารือถึงผู้ที่มีความเหมาะสมของ 7 พรรคการเมือง ที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามที่ทั้งสองสภาฯจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 5 มิถุนายน จากการหารือของ 7 พรรคการเมืองเมื่อครั้งที่แล้ว พรรคการเมืองต่างๆยังยึดมั่นใจได้ข้อตกลงที่จะให้พรรคพท. กับพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เป็นผู้หารือว่าจะส่งใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากการประชุมเมื่อได้ข้อยุติแล้ว ในช่วงบ่ายจะนำข้อหารือไปแจ้งต่อพรรคอนค.ต่อไป ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคพท. พรรคไม่ได้ส่งรายชื่อ เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ประกาศว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ และคุณหญิงเอง คงจะไม่อยากตระบัดสัตย์ที่เคยให้ไว้ต่อสาธารณะด้วย
เมื่อถามว่าส.ส.อีสาน พรรคพท. หลายคนต่างมีความเห็นอยากให้พรรคเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรครับฟังความคิดเห็นส.ส.ทุกคน จากการที่ส.ส.ไปพบปะชาวบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่า และเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจ ในการประชุมของพรรคในช่วงเช้า จะมีการพูดคุยถึง 2 เรื่อง คือ ปัญหาความต้องการของประชาชนที่ได้สะท้อนมาอยากให้พรรคพท.แก้ปัญหา และเรื่องความร่วมมือของ 7 พรรคการเมืองที่จะไปร่วมต่อสู้กันในสภาฯ เราจะหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อสะท้อนเจตจำนงค์ของประชาชน เพื่อจะปฏิเสธ กฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าพรรคพท.หากไม่ส่งรายชื่อนายกฯในนามพรรคจะตอบคำถามต่อประชาชนและสังคมอย่างไร ในฐานะที่มีส.ส.เป็นอันดับหนึ่ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคพท.ได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่จากกระบวนการที่เกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ถ้าหากการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย เพราะด้วยกติกาที่เปลี่ยนแปลงไปที่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของสังคม สิ่งที่เกิดมาจากกติกาที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดสภาพปัญหาเช่นนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ในพรรคพท.หลายคนที่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เข้าสภาฯไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใดพรรคพท.จะร่วมมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย สานต่อเจตนารมณ์ประชาชนให้บรรลุผล จะร่วมมือกันอย่างแข็งแรงเพื่อร่วมฝ่าฝันในกฎกติกาแบบนี้
เมื่อถามว่า นายธนาธร มีความเหมาะสมหรือไม่ มีอุปสรรคทางข้อกฎหมายประการใดหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทั้ง 7 พรรคการเมือง ผู้นำ หัวหน้าแต่ละพรรคล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วน มีความพร้อมเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคพท. 3 คน แม้ไม่ได้เป็นส.ส. แต่ยังมีคุณสมบัติครบถ้วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็เหมาะสม เพียงแต่ติดข้อกฎหมาย ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้ เพราะมีส.ส.ไม่ถึง 25 คน ส่วนนายธนาธรต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังถือว่ามีคุณสมบัติ สามารถเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ จากนี้ไปทุกพรรคต้องไปทำความเข้าใจ กฎกติกาที่เป็นแบบนี้ จะเลือกผู้นำเฉพาะหน้า ไปสู้กันในสภาฯอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคพท. พร้อมกับเปิดเผยถึงความพร้อมของ 7 พรรคการเมือง ต่อผู้ที่จะถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกฯว่า พรรคพช. เคารพในการตัดสินใจของ 7 พรรคการเมือง ไม่ว่าใครได้รับการเสนอชื่อล้วนมีความเหมาะสม อย่างไรก็ดีก่อนการโหวตเลือกนายกฯ อยากให้ผู้ทีได้รับเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์
จากนั้น นายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพท. ตอบคำถามพร้อมจะแสดงวิสัยทัศน์ในการโหวตเข้าชิงนายกฯหรือไม่ว่า พรรคพท. ไม่ได้เสนอชื่อให้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะแสดงวิสัยทัศน์ได้อย่างไร แต่ไม่ว่าผลการหารือออกมาเป็นอย่างไร ตนเคารพการตัดสินใจในผลการหารือของ 7 พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเสนอชื่อใคร ล้วนมีความเหมาะสมทั้งสิ้น
