เมื่อเวลา 23.40 น.วันที่ 5 มิถุนายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ต้องขอโทษประชาชนทุกคนที่เลือกเรา เพราะเราทำภารกิจการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.ไม่สำเร็จ แต่วันนี้เราไม่ได้พ่ายแพ้ เพราะชัยชนะนั้นถูกปล้นไป
ทั้งที่เมื่อวานเรายังมีความหวังเล็กๆว่า พรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ จะตัดสินใจบนหลักของความเป็นธรรม ยืนยันว่าเราทั้ง 7 พรรค สู้ถึงที่สุดแล้ว โดยได้ทำตามสิ่งที่ได้หาเสียงไว้ เราสู้อย่างถึงที่สุดภายใต้กติกาของฝ่ายรัฐประหาร การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการต่อสู้อันยาวไกล ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และเรายังเชื่อว่าที่สุดแล้ว ประชาชนจะชนะและเผด็จการจะพ่ายแพ้ไป เพราะไม่อาจหยุดยั้งความก้าวหน้าและพัฒนาการประชาธิปไตยได้ เพราะที่ผ่านมาเขาได้ใช้ต้นทุนทางการเงิน สังคม และการเมืองไปมากแล้ว
“นี่ไม่ใช่เวลาของความสิ้นหวัง ผมเชื่อว่าเวลาอยู่ข้างเรา ขอให้ช่วยกันรงณรงค์อย่างแข็งขันต่อไป ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพราะการต่อสู่เพื่อประชาธิปไตย ต้องทำอย่างแหลมคมและรอบด้านมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เห็นและตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้น เพราะวันนี้ชี้ให้เห็นว่าคนยังรักประชาธิปไตยไม่พอ เราต้องต่อสู้กับความไม่เห็นธรรม เพื่อสร้างสังคมให้คนรุ่นต่อไป”
นายธนาธร กล่าวว่า ส่วนบทบาททางการเมืองของตนหลังจากนี้ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จะทำหน้าที่ในสภา ตรวจสอบรัฐบาล ผลักดันกฎหมายก้าวหน้า 2.ดูการเลือกตั้งท้องถิ่น 3.รณรงค์สร้างพรรคอนาคตใหม่ ให้เป็นสถาบันทางการเมือง สำหรับสู้เพื่อประชาธิปไตยในระยะยาว ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ผลัดดันนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีการแก้ไขทั้งฉบับ แต่จะแก้เพียงบางมาตรา เพื่อให้เห็นว่ามีการแก้ไขแล้ว แต่หากแก้ไขแล้วเกิดประโยชน์ เราก็ยินดีช่วย เช่น แก้ไขกติกาการเลือกตั้ง เป็นต้น แต่ไม่เชื่อว่าจะไม่มีการแก้ไขที่มาของ ส.ว.หรือล้มยุทธศาสตร์ชาติ
