‘สุเทพ’ เบรก ‘ธนาธร’ อย่ากล่าวหาว่าถูกปล้นชัยชนะ เชื่อ ‘ประยุทธ์’ เลือก รมต.เองถือว่าดี (คลิป)

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีชุมนุม กปปส. หมายเลขดำ อ.247/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 70 ปี อดีตเลขาธิการ กปปส. นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอดีตแกนนำ กปปส. รวม 9 คน ในความผิด 8 ข้อหาฐานร่วมกันกบฏ, สนับสนุนกบฏ, ขัดขวางการเลือกตั้งฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116 , 117 , 209 , 210 , 215 , 216 , 362 , 364 , 365 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ม.76 , 152 ขณะที่นายสุเทพกับนายชุมพล จุลใส ถูกฟ้องเพิ่มอีกข้อหาฐานก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 ด้วย

คดีหมายเลขดำ อ.832/2561 ยื่นฟ้อง นางอัญชะลี ไพรีรัก อายุ 53 ปี อดีตพิธีกรเวทีชุมนุม กปปส. , อดีตพระพุทธะอิสระ อายุ 59 ปี อดีตแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ กับแนวร่วม รวม 14 คน, คดีหมายเลขดำ อ.1185/2561 ยื่นฟ้อง ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ อายุ 61 ปี ผู้ประสานงานกองทัพธรรม กับนายมั่นแม่น กะการดี อายุ 39 ปี แนวร่วมกองทัพธรรม, คดีหมายเลขดำ อ.491/2562 ที่ยื่นฟ้อง นายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 43 ปี แนวร่วม กปปส. ซึ่งเป็นอดีตผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.), คดีหมายเลขดำ อ.791/2562 ที่ยื่นฟ้องนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด รวมจำเลยทั้งหมด 5 สำนวน จำนวน 31 คน
จากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556-1 พ.ค. 2557 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี

ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่คดีนี้อัยการโจทก์ เตรียมพยานไว้จำนวน 80 ปาก ใช้เวลา 30 นัด ส่วนจำเลย พยาน 100 ปาก ใช้เวลา 30 นัด ขณะที่จำเลย กปปส.นั้น ได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์คนละ 600,000 บาท พร้อมมีเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งหมดออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
โดยช่วงเช้าวันนี้ “นายสุเทพ” อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และแกนนำและแนวร่วม กปปส.ก็เดินทางมาศาล

Advertisement

นายสุเทพ แสดงความคิดเห็นถึงการประชุมสภา เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่มีการโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว และไม่คิดว่าเป็นเสียงโหวตหรือรัฐบาลปริ่มน้ำแต่อย่างใด หากบริหารงานดี แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ก็จะได้รับการยอมรับจากประชาชน และในการคัดสรรคนมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หาก พล.อ.ประยุทธ์เลือกเอง ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้คนที่เหมาะสมกับงาน ถูกใจกับประชาชน ที่มีคนวิจารณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้อายุไม่ยืน ก็ขอให้อย่ามองในแง่ร้าย มองเรื่องต่างๆ ในแง่ดีบ้าง ส่วนเรื่องความเป็นเอกภาพของแต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลนั้น เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะทุกพรรคที่มาร่วม ต้องสมัครสมานสามัคคีไปในทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช.ไม่สำเร็จนั้น ไม่ใช้การพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาธิปไตย แต่เป็นการถูกปล้นชัยชนะว่า ในส่วนนี้ต้องถามว่าถูกปล้นหลังการเลือกตั้งหรือหลังการเลือกนายก ซึ่งพรรคของตนเองได้ ส.ส. เพียง 5 คน แต่พรรคอื่นที่ได้ ส.ส. 40 กว่าคน ปล้นมาหรือไม่ เรื่องการเมืองควรดำเนินไปตามกฎกติกา ไม่ควรมากล่าวหากัน

เมื่อถามว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันควรมีการปรับแก้หรือไม่ภายหลังจากการจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐธรรมนูญจะมีการปรับแก้ไขตามระยะเวลา แต่ส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้แล้ว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image