ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ล้วนมีความชัดเจน ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ในเรื่องโควต้ากระทรวงที่ได้รับ
ขอให้อ่านข้อความที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์
“กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้เที่ยวแลกไปมา จบข่าว”
ขอให้อ่านถ้อยคำที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แถลง
“วันนี้ผู้บริหารไม่มีใครพูดเรื่องนี้ ดังนั้น ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการช่วยจัดครม.จากภายนอก”
เหมือนกับคำว่า”ภายนอก”จะหมายความครอบคลุมถึงนอก พรรคพลังประชารัฐ นอกพรรคประชาธิปัตย์และนอกพรรคภูมิใจ ไทย
ทั้งๆที่ความจริงเป็นเรื่องแบบ”ภายใน”
หากนำเอาข้อความที่ นายอุตตม สาวนายน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส์เมื่อเวลา 19.42น. ของวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน ก็ระบุอย่างชัดแจ้งว่า
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย ยังไม่มีข้อสรุปว่าพรรคใดจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดบ้าง”
เช่นเดียวกับรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
“ขณะนี้หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กำลังเจรจาหารือกับ พรรคร่วมรัฐบาลอยู่คงจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ จากนั้นเป็นอำนาจตามกฎหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาครม.ทั้งหมดเพื่อความเหมาะสม”
เด่นชัดว่าระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยยังมีความเห็น “ต่าง”
นั่นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย อาจเห็นว่าทุกอย่าง “จบ” แต่ดูเหมือนว่าพรรคพลังประชารัฐยังไม่จบ และยังมีปราการด่านสุดท้ายอยู่
นั่นก็คือ การพิจารณาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งหมดนี้สะท้อนมุมมองที่ไม่เหมือนกันระหว่างพรรคพลังประชา รัฐ กับ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย อย่างเด่นชัด
เด่นชัดว่าฝ่ายหนึ่งอยากให้เรื่อง “จบ”
เด่นชัดว่าอีกฝ่ายหนึ่งมองว่าเรื่องยังสามารถแปรเปลี่ยนกันได้ ที่เคยบอกว่าจบก่อนวันที่ 5 มิถุนายนนั้นไม่ใช่แล้ว เพราะเงื่อน ไขใหม่เกิดขึ้นหลังสถานการณ์วันที่ 5 มิถุนายน
เข้าทำนอง “ข้าวสาร” ได้กลายเป็น “ข้าวสุก” ไปแล้ว