กกต.เผยมีคนร้องเรียน’สุรนันทน์-ดร.พิชญ์’ใส่เสื้อชี้นำ ส่งให้กกต.กทม.สอบ

“บุญส่ง”เผย คนร้อง”สุรนันทน์-พิชญ์”ทำผิด กม.ประชามติผ่านแอพพ์ตาสับปะรด มอบ กกต.กทม.ตรวจสอบข้อเท็จจริง แจง ม.61 ไม่ขัด รธน.ขอปชช.อย่ากลัวการแสดงความคิดเห็น

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการ กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ได้รับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติบริเวณปริมณฑล จำนวน 11 เรื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมือง กลุ่มการเมืองที่ลงพื้นที่ แสดงความคิดเห็น และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งฝ่ายสืบสวนตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย และบางเรื่องเกิดขึ้นก่อน พ.ร.บ.ประชามติมีผลบังคับใช้ จึงได้สั่งยุติเรื่องไป ขณะเดียวกันพบว่านับตั้งแต่เปิดตัวแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม มีการแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด จำนวน 2 เรื่อง โดยร้องว่านายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สวมเสื้อที่มีข้อความ “รับและไม่รับ” ซึ่งมีลักษณะชี้นำ โดยได้ส่งไปยัง กกต.กทม. ในฐานะเจ้าของพื้นที่ในการตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอาญาหรือไม่

นายบุญส่งกล่าวต่อว่า แม้มาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะถูกมองว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะการกระทำที่จะถือว่าเข้าข่ายผิดมาตราดังกล่าวต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ 1.ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง 2.ต้องไม่ก้าวราว รุนแรง ข่มขู่ ปลุกระดม และ 3.การกระทำนั้นมีเจตนามุ่งให้ประชาชนออกเสียงไปทางใดทางหนึ่ง จึงยากมากที่จะมีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้ผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นเกรงกลัวมากเกินไป เพราะตัวกฎหมายมีเจตนาแค่ปรามเท่านั้น

“ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ กกต.ชี้ขาด ดังนั้นหากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดก็สามารถที่จะแจ้งต่อพนักงานสอบสวนได้เลย ถ้ามาแจ้ง กกต.ก็จะรวบรวมแจ้งต่อพนักงานสอบสวนให้ไปดำเนินการ ซึ่งแนวปฏิบัตินี้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไร” นายบุญส่งกล่าว

Advertisement

นายบุญส่งกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นมากขึ้น ว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. แต่ส่วนตัวมองว่าผู้ออกกฎหมายควบคุมสถานการณ์มีเจตนาที่ดี เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในช่วงที่มีความขัดแย้งอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image