‘อิสสระ’ แจงเหตุสลับตำแหน่ง รับเป็นคนท้วง ‘คุณหญิงกัลยา’ เอง เหตุไม่เคยชนะในอีสาน

“อิสสระ” ยันสลับตำแหน่งระหว่าง “นิพนธ์-จุติ” ไม่ใช่ความขัดแย้ง ยอมรับเป็นคนทักท้วง “คุณหญิงกัลยา”เองเพราะไม่สามารถทำให้อีสานชนะได้ อยากขอโอกาสให้คนอุบลฯ บ้าง ย้ำเมื่อมติพรรคออกมาอย่างไรต้องยุติ เชื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาภายใน ปชป.

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีการทำหนังสื่อถึงเลขาธิการพรรค เรื่อง ขอทบทวนมติตามที่ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ และส.ส. เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ขอให้มีการสลับตำแหน่งระหว่างนายจุติ ไกรฤกษ์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความขัดแย้ง แต่สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมมีมติให้นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นรมช.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และให้นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรมช.มหาดไทย แต่บุคคลทั้ง 2 ขอสลับกระทรวงกันเนื่องจากมีความถนัดงานในแต่ละด้านไม่ตรงกัน และเป็นความยินยอมพร้อมใจกันของทั้งคู่ โดยนายจุติ ได้ขอไปทำหน้าที่ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะที่นายนิพนธ์ ได้ขอเป็นรมช.มหาดไทย ซึ่งเมื่อตกลงกันได้ ตนจึงให้บุคคลทั้ง 2 ลงรายมือชื่อต่อหน้าหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคไว้เป็นหลักฐาน และมีลายเซ็นของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคกำกับด้วย ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นความขัดแย้ง

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าในระหว่างการประชุมได้มีการทักท้วงถึงรายชื่อบางบุคคลที่อาจมีความไม่เหมาะสมในการเป็นรัฐมนตรี นายอิสสระ กล่าวยอมรับว่าตนได้ทักท้วงรายชื่อของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เนื่องจากเห็นว่าใช้โควตาของประธานภาคอีสาน แต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ ส.ส.ในภาคอีสานเลยยกเว้นจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ ส.ส.เขต 2 คน และบัญชีรายชื่อ 4 คน ดังนั้นจึงน่าจะให้ตำแหน่งตอบแทนชาวอุบลราชธานีบ้าง อีกทั้ง ส.ส.ในพื้นที่ต่างมีความใกล้ชิดผูกพันกับประชาชน หากเป็นฝ่ายบริหารจะสามารถทำงานช่วยเหลือได้มาก ขณะที่คุณหญิงกัลยา แม้เป็นประธานภาค เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา แต่กลับไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้เลย

“ผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง เพราะรัฐมนตรีก็เคยเป็นมาแล้ว แต่เมื่อลุกขึ้นทักท้วงและได้รับคำชี้แจงว่ารายชื่อทั้ง 7 คน ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเป็นมติ กก.บห. และที่ผ่านมาคุณหญิงกัลยาก็ทำงานได้ดี สามารถประสานกับทุกฝ่ายในภาคอีสานได้ ทุกอย่างก็ถือว่ายุติ ผมไม่ได้โกรธอะไรกับคุณหญิงกัลยา แต่พูดในหลักการเท่านั้น ดังนั้นจากนี้ไปต้องปล่อยให้เขาทำหน้าที่ เราได้แต่ติดตามดู และเป็นเรื่องปกติที่พรรคจะมีการถกเถียงกันในเรื่องต่างๆ ที่พรรคเปิดให้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ แต่เมื่อทุกอย่างเป็นมติพรรคแล้ว ต้องไม่ติดใจ ต้องยอมรับและต้องยุติ นี่คือวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาภายในพรรค” นายอิสสระกล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image