เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงผลการประชุมร่วมระหว่างส.ส.กับคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาคัดบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ในการประชุมดังกล่าว ทุกคนมีโอกาสซักถามข้อข้องใจต่างๆ จนเป็นที่พอใจ กระทั่งที่ประชุมมีมติอนุมัติรายชื่อออกมา 7 คน ทั้งนี้ การที่คนในพรรคมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันหลากหลายถือเป็นความเห็นต่าง และเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตยมากกว่า ขออย่ามองว่าเป็นความขัดแย้ง แต่นี่คือบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคการเมืองอื่นๆไม่มี
เมื่อถามว่าจากเรื่องดังกล่าวจะทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำภายในพรรคอีกหรือไม่ นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีคลื่นใต้น้ำ เพราะหลังจากนี้ ทุกคนในพรรคต้องร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ส่วนพรรคต้องกำกับดูแลงานของรัฐมนตรีของพรรค ขณะที่รัฐมนตรีแต่ละคนต้องมาชี้แจงงานของตัวเองที่ทำในกระทรวงนั้นๆ ต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรคทุกวันอังคาร ซึ่งจะเป็นเวทีที่ให้ส.ส.ของเราสามารถซักถามรัฐมนตรีได้ด้วย
ต่อข้อถามว่าการจัดสรรคนของพรรคไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นต้น จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือความวุ่นวายภายในพรรคอีกหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เรามีหลักเกณฑ์สำหรับการจัดสรรบุคคลส่วนนี้ ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้ตนพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยจัดเป็นกลุ่มของ อดีตส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส. เพื่อดูว่าส่วนใดบ้างที่ควรถึงคราวได้รับตำแหน่ง แต่ถ้าพรรคได้รับการจัดสรรตำแหน่งการเมืองมาน้อย ก็ต้องให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่ากรณีที่มีว่าที่รัฐมนตรีของพรรคบางคนถูกยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาความเป็นสมาชิกภาพ กรณีที่ถือครองหุ้นสื่อ จะดำเนินการอย่างไร นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีคนส่งข้อมูลนี้มาให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาในการประชุมเพื่อคัดเลือกบุคคลไปเป็นรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการตรวจสอบเรื่องกรณีถือครองหุ้นสื่อคงใช้เวลาอีกนาน เพราะตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แจ้งนัดหมายใดๆต่อผู้ถูกร้อง รวมเวลาแล้วเรื่องดังกล่าวน่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือน ซึ่งต้องให้โอกาสแก่ ส.ส.ที่เป็นว่าที่รัฐมนตรีไปก่อน