เสธ.แมว เย้ย รบ.เสียงปริ่มน้ำที่ได้มาจากการฉ้อฉลก็แบบนี้ ซัด ด่าอะไรใครไว้ คืนสนองแน่
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาและหัวหน้าศูนย์สื่อสารข่าวสารเฉพาะกิจ (ศสส.) พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลว่า ในระหว่างการรอคอยครม.ใหม่ สังคมได้รับรู้แต่ข่าวสารที่ไม่เป็นมงคล 1.ตัวนายกรัฐมนตรีถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติ เพราะเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาชี้ขาดแล้วว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ เรื่องนี้จะเป็นระเบิดเวลาใหญ่ในอนาคต 2.การอธิบายความว่า วุฒิสมาชิกไม่เกี่ยวข้องกับประชาชนเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจที่จะแต่งตั้งกันเอง ผลปรากฏว่า เป็นยิ่งกว่าสภาผัวเมียที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเสียอีก 3.ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 41 คนถูกร้องเรียนว่า ขาดคุณสมบัติเพราะไปถือหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ หากหลุดจากตำแหน่งก็จะส่งผลให้รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยทันที 4.สื่อต่างประเทศหลายสำนักออกข่าวไปทั่วโลกว่า ไทยเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม และ 5.ข่าวสารตัวบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีล้วนเป็นบุคคลที่ฝากความหวังไว้ด้วยยาก เพราะไม่มั่นใจในฝีไม้ลายมือ แถมมีปัญหาของการปฏิบัติตามสัจจะวาจาสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ความเสื่อมทั้งหมดมาจากสาเหตุเดียวที่ตัวผู้นำของเรามาจากกลุ่มการสืบทอดอำนาจ และได้รับชัยชนะการเลือกตั้งมาจากการฉ้อฉลขนาดใช้เล่ห์เพทุบายเต็มรูปแบบแล้วยังได้ส.ส.มาแค่เสียงปริ่มน้ำ จึงทำให้เป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพขาดการยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ และคาดการณ์ต่อไปได้เลยว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะพลิกผันกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะนักการเมืองเขาจำได้แม่นว่า เคยถูกผู้นำด่าว่าเขาไว้อย่างไร และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเอาคืนและแว้งมาสั่งสอนตัวผู้นำบ้าง เพราะนักการเมืองเขารู้จักที่จะแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง รู้เหตุรู้ผลของความจำเป็นซึ่งกันและกัน ไม่มีใครอยากทำงานร่วมกับเผด็จการ ถ้าไม่ถูกบังคับขู่เข็ญ ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่า ในระยะเวลาอันใกล้นี้กระแสสังคมจากพลังประชาชนคนรุ่นใหม่ที่รักประชาธิปไตยจะออกฤทธิ์แรงขึ้นเรื่อยๆจนผลักไสให้รัฐบาลจากการสืบทอดอำนาจนี้ และฝ่ายประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมจะเข้ามาแทนที่และนำพาประเทศฝ่าฟันวิกฤติไปได้
