จากการที่ “มติชนออนไลน์” ได้สำรวจความคิดเห็นผู้อ่านมติชน เรื่อง
“ท่านมีความเห็นอย่างไร เห็นด้วยกับนักการเมืองที่ระบุว่านักเรียนไม่เข้าใจแก่นแท้พิธีไหว้ครูหรือไม่
1.เห็นด้วย 2.ไม่เห็นด้วย
โดยเปิดให้แสดงความคิดเห็นได้ทั้งในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์นั้น ผลปรากฎว่า ผู้อ่านส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ คือไม่เห็นด้วยกับความคิดของนักการเมือง
สำหรับตัวอย่างความคิดเห็นเช่น
“เด็กยุคใหม่ GenC เกิดมาก็นอนกอดแทบเล็ท ท่องโลกออนไลน์ สามารถค้นหาข้อมูลที่เค้าสงสัยใคร่รู้ได้ทุกเวลา ”
“ไม่แปลกใจที่คนอย่างหมอวรงค์ ดร.รัชดา ทำไมประชาชนถึงไม่เลือกกลับมาเป็น ส.ส. ก็เพราะขนาดความคิดเด็กยังมาดูถูก แล้วจะอาสามาเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร”
” จริงๆ ไม่ใช่เด็กคิดไม่เป็นหรอกครับ ผู้ใหญ่บ้านเรา ต่างหากที่คิดไม่ได้เวลาเป็นสิบๆปีแล้ว ที่ทั้งโดนกรอกหู และหลอกตัวเอง”
“ถ้าจะแถกันให้สุด.ก็ออกกฏหมายเลยว่า.ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า18ปี.สนใจและวิจารย์การเมือง.เพราะยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง.. จะเอากันแบบนั้มั๊ย? ส่งเสริม?การรับรู้?เรื่อง? ปชต.กันเฉพาะคนที่มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น..ระบุลงใน? รธน.เลย? ปชต.เริ่มเมื่ออายุ18..เพราะบ้านเราเป็น? ปชต.99.99%ตามที่ท่านผู้นำได้เคยบอกไว้.. มองบนแป๊บ..”
“พานนักเรียนในงานวันไหว้ครู ไม่จำเป็นต้องจัดตามมาตรฐานแบบเดิมๆที่ทำเป็นรูปพุ่มดอกไม้สวยงาม แต่เราคิดว่าควรจัดตามความคิดของเด็กๆที่สร้างสรรค์และสื่อออกมาได้ เพียงแต่ความเคารพในตัวคุณครูไม่ได้หายไปไหน ความเคารพยังดำรงค์อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง”
“สังเกตจากพาน จะมีลัญญลักษณ์ของการฝากตัวเป็นศิษย์อยู่ เช่น หญ้าแพรก ดอกเข็ม ข้าวตอก ดังนั้น จึงคิดว่าเด็กเข้าใจแก่นแท้ของการไหว้ครู แต่รูปแบบของพานก็เป็นไปตามสภาพของสังคมปัจจุบัน…..ถือว่าเด็กเข้าใจคิด…”
“ก็เสรีภาพถูกปิดไปเรื่อยๆ ตรงไหนที่สามารถแสดงออกมาได้ ย่อมปะทุออกมาเป็นธรรมดา”
“จริงๆแล้วอาจไม่มีใครเข้าใจอะไรมาก่อนเลยก็ได้นะครับ ประเพณีก็เป็นประเพณีใหม่พึ่งเกิดแต่หลอกให้คนเชื่อว่ามีมานานนมแล้ว.”
” ถามกลับ นักการเมือง โดยเฉพาะผู้ที่ออกตัวว่าเคยเป็นครู คุณเข้าใจแก่นแท้ของพิธีไหว้ครูแค่ไหน
พิธีไหว้ครู ผู้เรียนซาบซึ้งแก่ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ ในขณะเดียวกันครูผู้รับพานไหว้ครู รู้สึกภูมิใจที่ได้สอน อบรมบ่มวิชาความรู้ให้แก่นักเรียน เป็นแรงผลักดัน ให้นักเรียนเติบกล้าในทางความคิด ของตัวเอง”
“แก่นแท้ของนักการเมืองคือผลประโยชน์ส่วนตัวทรยศประชาชน…เพราะฉะนั้นอย่าสะเออะมาหาแก่นแท้จากนักเรียน…เด็กมันเห็นยังไงคิดยังไงก็ทำแบบนั้น..ส่วนการเคารพครูบาอาจาร์ยมันอยู่ในจิตสำนึกซึ่งนักการเมืองเหี๊ยๆไม่เคยมี”
“เป็นอะไรนักหนายุคสมัยใหม่แล้วจะให้นักเรียนดักดานอยู่ที่เดิมเหรอเด็กเขาฉลาดรับรู้เหตุบ้านการเมือง”
“เราคิดว่าที่จริงจุดประสงค์ไหว้ครูต้องมีดอกไม้ ทูป เทียนเป็นหลัก เหมาะแก่การเคารพบูชาครู การเอาสิ่งอื่นขึ้นพานแล้วไหว้ครูดูเหมือนไม่ค่อยขลัง แต่ทางกลับกันมันสะท้อนถึงความรู้สึกของเด็กที่เขาได้รับรู้ ได้เห็นถึงพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้ดี ถึงความไม่เที่ยงธรรม ถึงการขาดคุณธรรมของผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นไม่โทษเด็กแต่โทษผู้ใหญ่ที่โกงไม่เนียนทำให้เด็กรู้ทัน”
“เป็นการไหว้ที่ดีครับ ถ้าครูเผด็จการก็ถือว่าไม่ได้ไหว้ หลัก กลามสูตร เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อครับ ดังนั้นควรไหว้ในสิ่งที่ควรไหว้ครับ”
“พานนักเรียนเป็นความสำเร็จทางการศึกษาไทย ที่เด็กคิดเป็นว่าปัญหาประเทศไทยไม่พัฒนาเกิดจากผู้ใหญ่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีด้านจริยธรรม และความยุติธรรม ต่อเสียงประชาชนส่วนใหญ่ ค่ะ ขอชื่นชมเด็กรุ่นใหม่ที่ปฏิเสธระบบคอรัปชั่นเชิงระบบ ทำลายประเทศไทยระยะยาวค่ะ”
