09.00 INDEX เผือกร้อน ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา “โควต้า ซิสเต็ม” ในการฟอร์ม “ครม.”

ไม่ว่าการออกมาโวยของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ไม่ว่าการ ออกมาโวยของ ส.ส.ภาคอีสานตอนบนภายในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าการออกมาโวยของ”กลุ่มด้ามขวานทอง”

อาจเป็นมิติและแนวโน้มใหม่ทางการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพิ่งประสบ

ทั้งๆที่นี่คือความเป็นจริงภายใน”โควต้า ซิสเต็ม”

มิใช่ว่าจะมีแต่ นายดำรงค์ พิเดช เท่านั้นที่ผิดหวัง หากนาย เอกราช ช่างเหลา ก็หงุดหงิด

Advertisement

แม้กระทั่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งจองกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ตั้งแต่ยังเป็น”กลุ่มสามมิตร”ถึงขั้นเตรียมเช่าเฮลิคอปเตอร์ เพื่อตรวจราชการก็จำเป็นต้องกลืนเลือด

กลืนเลือดแล้วบ่ายหน้าไปอยู่กระทรวงยุติธรรมแทน

 

Advertisement

กระบวนการ”โควต้า ซิสเต็ม”ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะภายในพรรคพลังประชารัฐ หากแม้กระทั่งระหว่างพรรคที่เคยขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาด้วยกัน

ถามว่าในเมื่อน้องชายของ ร.อ.มนัส พรหมเผ่า ได้กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

แล้วจะไม่ให้ 13 ส.ส.จากภาคใต้ต้องเหล่ตามองดอกหรือ

ถามว่าในเมื่อกลุ่มนครราชสีมาได้โควต้ามา 1 แล้วกลุ่มขอนแก่นผนวกเข้ากับอุบลราชธานีซึ่งมีคะแนนกว่า 1 ล้านอยู่ในมือไม่เหล่ตามองดอกหรือ

นี่คือสภาพการณ์ทางการเมืองใหม่ที่มาพร้อมกับการเลือกตั้ง

ทำให้การจัดครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในเดือนมิถุนายน 2562 แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เมื่อเป็น”โควต้า ซิสเต็ม”จึงจำเป็นต้องจัดครม.แบบ”กินแบ่ง” มิได้เป็น “กินรวบ”อีกต่อไปแล้ว

 

ยิ่งเมื่อการจัดครม.เสร็จสรรพเรียบร้อยถึงขั้นมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ยิ่งทำให้สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนไป

เปลี่ยนไปจากที่ได้มาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เท่ากับเป็นการ”ปิดสวิตช์ คสช.”อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์เคยลั่นวาจาเอาไว้

ไม่มีอำนาจของมาตรา 44 อยู่ในมือต่อไปอีกแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image