ลึกแต่ไม่ลับ: สองว่าที่รมต. ยศพลเอก “บิ๊ก ธ.” กับ “บิ๊ก ก.”

ลึกแต่ไม่ลับ: สองว่าที่รมต. ยศพลเอก “บิ๊ก ธ.” กับ “บิ๊ก ก.”

“คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือ “คสช.” ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นหัวหน้า “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โค่นรัฐบาลพลเรือนของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ลงเป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 บัดนี้ก้าวข้าม ครบวาระ 2 ปี มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผลงานมีทั้ง “บวก” และ “ลบ”

“จุดเด่น” ยกเป็นรูปธรรมเห็นชัดสุดคือ “การรักษาความสงบเรียบร้อย-การปราบปรามผู้มีอิทธิพล” ที่ “บิ๊กตู่” ใช้มาตรา 44 เป็นเครื่องทุ่นแรง สามารถสยบปัญหาสารพัดได้อยู่หมัด

ขณะที่ “จุดด้อย” ความสามัคคีปรองดอง ของ “คนต่างสี” ยังแค้นฝังหุ่นกันเหมือนเดิม แถม “คนบางสี” ก็มีความรู้สึกอยู่ในใจ เป็นดั่งที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โฟกัส คือคิดว่า “คสช. เป็นคู่ขัดแย้งกับเขาเสียเอง”

Advertisement

และตัวแปรที่จะมาฉุดกระชากลากถู ให้กระแสนิยมของ “คสช.” มลายหายวับไปกับตามากที่สุด คือ “ศึกเศรษฐกิจ” ที่ถาโถมเข้ามาดุจพยัคฆ์เสียบปีกทุกองคาพยพ ทั้งภาคส่งออกติดลบ หนีครัวเรือนสูง พุ่งกระฉูด นักลงทุนต่างชาติ หดตัว ภาพรวม หนักหน่วงเป็นอย่างยิ่ง

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2557 ประกาศจัดตั้งคณะรัฐมนตรีคณะที่ 61 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

อีกไม่กี่เดือนรัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็จะครบ 2 ปีแห่งการบริหารแล้วเช่นเดียวกัน

Advertisement

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ปรับคณะรัฐมนตรี “ตู่ 2” มาแล้ว 1 ครั้ง เป็นการ “ปรับใหญ่” เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558

ชุดเก่าที่ถูกปรับออก 11 คน ส่วนใหญ่เป็น “ทีมเศรษฐกิจ” ประกอบด้วย 1. “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” รองนายกรัฐมนตรี 2. “นายยงยุทธ ยุทธวงศ์” รองนายกรัฐมนตรี 3. “นายสมหมาย ภาษี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4. “นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5. “นายอำนวย ปะติเส” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6. “นายพรชัย รุจิประภา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที

7. “นายณรงค์ชัย อัครเศรณี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 8. “นายกฤษณพงศ์ กีรติกร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 9. “นายรัชตะ รัชตะนาวิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 10. “นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 11. “นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

การปรับคณะรัฐมนตรีจาก “ตู่ 1” เป็น “ตู่ 2” เทน้ำหนัก เน้นยกเครื่อง “ทีมเศรษฐกิจ”

ผู้เข้ามารับช่วงใหม่ประกอบด้วย

1. “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นหัวหน้าทีม นั่งรองนายกฯ

2. “นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3. “นายออมสิน ชีวะพฤกษ์” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 4. “นายอุตตม สาวนายน” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที 5. “พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 6. “นายสุวิทย์ เมษินทรีย์” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 7. “พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 8. “นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 9. “นายปิยะสกล สกลสัตยาทร” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 10. “นางอรรชกา สีบุญเรือง” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ในการปรับ ครม. ที่ไม่หลุดตำแหน่ง แต่สลับเก้าอี้ คือ 1. “พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองนายกฯ 2. “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองนายกฯ 3. “นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ขึ้นลิฟต์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 4. “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5. “นางอภิรดี ตันตราภรณ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 6. “พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองนายกฯ 8. “พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 9. “นายดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีที่หนังเหนียว อยู่ในตำแหน่งเดิม จาก “ตู่ 1” ต่อยอดมายัง “ตู่ 2” ประกอบด้วย

1. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2. “นายวิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย 3. “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ 4. “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม 5. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 6. “นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 7. “นายวีระ โรจน์พจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

8. “นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 9. “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 10. “พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 11. “นายสุธี สุขมาก” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 12. “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม 13. “นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

จะเห็นได้ว่า การปรับ ครม. “ประยุทธ์ 2” ยกเครื่องเฉพาะทีมเศรษฐกิจ เปลี่ยนจากชุด “คุณชายอุ๋ย” เสริมใยเหล็กโดย “ทีมสมคิด” “บิ๊กตู่” ไม่ได้แตะต้อง ข้องแวะ กับ “เหล่าขุนศึก” ที่มาจากกองทัพ มีเพียงแค่สลับตำแหน่ง แต่ไม่มีการปรับใครออกเลย

ยังคงรักษาสถานะ “กรีน โพลิติกส์” ไว้เหนียวแน่นดุจเดิม

อย่างไรก็ตาม ช่วงก้าวข้าม พ้นโซน “2 ปี คสช.” และกำลังจะครบ 2 ปีของรัฐบาล “ป.ประยุทธ์”

“บิ๊กตู่” น่าจะมีเงื่อนไขใหญ่ ให้ปรับคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

เนื่องเพราะ “คนเก่า” ที่ร่วมชะตากรรม “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” มาด้วยกัน 2 ปี ใช้หนี้บุญคุณกันสุดคุ้มแล้ว ต้องเปิดทางสะดวก แสดงสปิริตให้ “รุ่นน้อง” ที่จะเกษียณในเดือนกันยายนนี้ มา “ผลัดกันชม” บ้าง

เขียนเสียบไว้ใต้หมอนได้ล่วงหน้าว่า “ครม.ตู่ 3” ปรับเมื่อไหร่ มี “2 พล.อ.” แห่ง ทบ. ขึ้นลิฟต์เป็นเสนาบดีป้ายแดง คือ “บิ๊ก ธ.” กับ “บิ๊ก ก.”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image