เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ( ปชป.) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.) สงขลา ในฐานะแคนดิเดตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) ในโควตาของ ปชป. เปิดเผยว่า ไม่หนักใจกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี กรณีตนมีรายชื่อในโผการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของบุคคลกลุ่มใด แต่ได้รายงานให้หัวหน้าพรรครับทราบแล้วทุกประเด็น สำหรับข้อมูลในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่จะปรากฏต่อสาธารณะทุกครั้ง เมื่อตนหรือบุคคลในครอบครัวจะมีตำแหน่งสำคัญทางการเมืองระดับชาติในพรรคหรือการทำงานการเมืองท้องถิ่น
นายนพนธ์ กล่าวว่า ตนจะไม่ไปลงสมัครนายก อบจ.สงขลาอีก เพราะพรรคมีมติให้ไปทำหน้าที่รัฐมนตรี ทำให้มีข้อมูลออกมาโจมตีประมาณ 2 สัปดาห์ ขณะนี้ได้มอบอำนาจให้ทีมกฎหมายติดตามการเสนอข้อมูลจากบางสื่อและบางเพจเฟซบุ๊กในโซเชียลของ จ.สงขลา เพื่อดำเนินการตามความเหมาะสม และขอให้ระมัดระวังการเสนอข้อมูลเท็จทำให้มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เนื่องจากทราบว่ามีบางฝ่ายจงใจเจตนาให้ร้าย
“เบื้องต้นสามารถชี้แจงได้ทั้ง 5 ประเด็น เนื่องจากไม่ได้เป็นปัญหาจากการทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ และขณะนี้มีเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.เรื่องเดียว จากโครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ 2 คันวงเงิน 52 ล้านบาท แต่ อบจ.ไม่เบิกจ่ายเงินให้กับผู้ชนะการประมูลตามสัญญา ต่อมาบริษัทเอกชนได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา เนื่องจากมีการร้องเรียนก่อนที่ผมจะเข้าไปรับหน้าที่นายก อบจ.มีการจัดซื้อไม่ชอบด้วยกฎหมายจาก พ.ร.บ.สมยอมราคา ก็ต้องตั้งกรรมการสอบ เพราะเคยมีการร้องเรื่องการจัดซื้อรถดับเพลิงของ กทม.เป็นตัวอย่าง แม้ผู้ว่า กทม.จะมารับตำแหน่งในภายหลังแล้วจ่ายเงิน ป.ป.ช.ชี้ว่าทำให้ กทม.เสียหาย” นายนิพนธ์ กล่าว
นาย อบจ.สงขลา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา อบจ.สงขลาต้องระมัดระวังในการจ่ายเงิน เพราะเมื่อจ่ายออกไปแล้ว ถ้าการสอบสวนจบแล้วมีมูล ตนก็ต้องรับผิดชอบในฐานะผู้บริหาร ประกอบกับมีหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเมื่อต้นเดือนมกราคม 2557 ระบุว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหา โดยสั่งให้ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน ก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง จากนั้นวันที่ 7 มิถุนายน ผู้ว่าฯส่งหนังสือให้สอบข้อเท็จจริงหากพบมีการฮั้วให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา จึงต้องตั้งกรรมการสอบสวนเพิ่ม และเมื่อมีการร้องศาลปกครอง และ ศาลรับเรื่องไว้ก็จำเป็นต้องระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน จนกว่าจะคำพิพากษาถึงที่สุด โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดนี้ชี้แจงกับ ป.ป.ช.
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการสร้างสวนสาธารณะเมืองสงขลา เพื่อการท่องเที่ยวใช้งบกว่า 375 ล้านบาท ไม่ได้ร้องว่าตนทุจริต แต่ร้องเพราะไม่มีการทำประชาพิจารณ์ สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในราคาที่แพงเกินเหตุ โดยตั้งราคาไว้ที่ 5.7-6 ล้านบาทต่อคัน อบจ.สงขลาซื้อตามบัญชีนวัตกรรมที่กำหนดโดยกรมบัญชีกลาง ขณะที่ข้อกล่าวหาจัดงบประมาณกระจุกตัว ตนกระจายงบให้ ส.อบจ.ทั้ง 16 อำเภอตามข้อบัญญัติท้องถิ่น
“โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยใช้เงินงบประมาณปี 2558-2559 ถูกระบุว่าเป็นการใช้งบประมาณไม่ถูกต้องบางสื่อเสนอข้อมูลว่านำเงินไปอุดหนุนสโมสรฟุตบอล ขอยืนยันว่าไม่ได้อุดหนุน แต่มอบให้สมาคมกีฬาเพื่อพัฒนาการกีฬาของจังหวัดตาม พ.ร.บ.กีฬาซึ่งจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ของการกีฬาแห่งประเทศไทย เนื่องจาก จ.สงขลาจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาแห่งชาติ จึงอุดหนุนงบเพื่อให้นักกีฬาเตรียมความพร้อม หากมีการเบิกจ่ายโดยไม่มีระเบียบรองรับตามอำนาจหน้าที่สมาคมกีฬาฯต้องนำเงินมาคืนให้ อบจ.และการใช้งบสภา อบจ.ก็ไม่ได้เสนอประเด็นในการทักท้วง” นายนิพนธ์ กล่าว
