เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ในห้วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กอ.รมน. โดยศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 ได้บูรณาการและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาบุกรุกพื้นที่ทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและการบุกรุกที่ดินของรัฐ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี (แหลมฉบัง), เพชรบูรณ์, นครศรีธรรมราช, ตรัง และภูเก็ต โดยมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ สามารถนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจำนวน 46 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก 18 แปลง เนื้อที่ 234 ไร่เศษ ตรวจยึดรีสอร์ต 24 แห่ง และบ้านพักตากอากาศจำนวน 2 แห่ง ตรวจยึดไม้ของกลางจำนวน 20 ท่อน อายัดไม้พะยูงและประดู่ จำนวน 3 ตู้คอนเทนเนอร์ สรุปผลการตรวจยึดพื้นที่พลิกฟี้นคืนผืนป่า ในรอบ 6 เดือน สามารถยึดพื้นที่คืนได้ รวม 49,304 ไร่ แยกเป็น กรมป่าไม้ ดำเนินคดีบุกรุกป่า จำนวน 35,546 ไร่ ดำเนินคดี จำนวน 1,055 คดี จำนวนผู้ต้องหา 226 คน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินคดีบุกรุกป่า จำนวน 11,442 ไร่ ดำเนินคดี จำนวน 705 คดี จำนวนผู้ต้องหา 115 คน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินคดีบุกรุกป่า จำนวน 2,316 ไร่ ดำเนินคดี จำนวน 70 คดี จำนวนผู้ต้องหา 8 คน
พล.ต.ธนาธิปกล่าวว่า กอ.รมน. เป็นองค์กรหลักในการบูรณาการอำนวยการ และประสานการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพื่อให้เกิดความมั่นคงของรัฐ และความสงบสุขของประชาชน ได้ติดตามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อรักษาผืนป่าซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ตลอดทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรักความหวงแหน และช่วยกันบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่สืบไป และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกันเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอื้ออาทร และเสียสละเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม กอ.รมน.จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องดูแล
