ส.ส.อีสาน-ใต้ พปชร. เสียงอ่อน เจอ ‘ผู้กองธรรมนัส’ กล่อม 2 ชม. ยอมถอย ไม่เอาแล้วเก้าอี้ รมต.

เอกราช-ซี้บิ๊กตู่ เสียงอ่อน เจอ ธรรมนัส กล่อม 2 ชม. ยอมถอยหลังขอเก้าอี้ รมต.

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. แกนนำ ส.ส.ภาคอีสานตอนบน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำภาคใต้ ร่วมแถลงข่าวถึงท่าทีและข้อเรียกร้องให้พิจารณาโควต้ารัฐมนตรี

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาประสานพูดคุยกับกลุ่มภาคอีสานตอนบน และกลุ่มภาคใต้ โดยหารือกันประมาณ 2 ชั่วโมง จนได้ข้อสรุปว่า ส.ส.ภาคใต้ 13 คน และอีสานตอนบน จะขับเคลื่อนนโยบายและทำงานกับพรรคต่อ ทั้งนี้ ภาคอีสานและภาคใต้ ไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นห่วงว่าจะผลักดันการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างไร ดังนั้น นายกฯจะมอบหมายให้มีรัฐมนตรีมาช่วยกำกับดูแลงาน ส่วนตำแหน่งทางการเมืองอื่น ทั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือเลขาฯ อยู่ที่นายกฯพิจารณาบุคคล ซึ่งทั้งสองกลุ่มก็พอใจ ที่จะมีตัวแทนเข้าไปขับเคลื่อนงาน โดยภายหลังจากจัดตั้งรัฐบาล พรรค พปชร.จะมอบหมายให้นายเอกราช และพ.อ.สุชาติเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ต่อไป

ด้าน พ.อ.สุชาติกล่าวว่า ขอฝากไปถึงพี่น้อง 14 จ.ภาคใต้ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ ยืนยันที่จะทำงานภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป เราไม่ได้กดดันนายกฯเพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรี แต่อยากสร้างแนวทางปฏิบัติตามนโยบายเรื่องผลผลิตทางการเกษตร ทั้งปาล์มน้ำมันและยางพารา โดยไม่ได้คำนึงว่าจะต้องมีตัวแทนจะอยู่ในฝ่ายบริหารหรือไม่แต่อยากให้แก้ปัญหาต่างๆ

Advertisement

“เราขอเรียนตรงไปตรงมาว่า หลังเลือกตั้ง พรรคค่อนข้างนิ่งกับเรา ทั้งที่ภาคใต้ 24 ปี พรรคอื่นจึงจะแจ้งเกิดได้ แต่เมื่อเรานิ่ง เพราะคิดว่ารอให้ความวุ่นวายจบก่อน จึงออกมาทักท้วงและทวงถาม การเรียกร้องของเราไม่จำเป็นว่าต้องเป็นรัฐมนตรี โดยแจ้งหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ไปตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 7 วัน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับ” พ.อ.สุชาติกล่าว และว่า ส่วนที่กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้รวมตัวในนามกลุ่มด้ามขวานไทย จะเสนอชื่อตนเป็นรัฐมนตรี ยืนยันว่าอยากทำการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้อยากเป็นรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นายกฯได้พูดคุยกับตนเป็นที่เข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว แม้ตนจะเป็นเพื่อนรักกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของการทำงาน

ขณะที่ นายเอกราชกล่าวว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถขับเคลื่อนในโยบายต่างๆ ของพรรคได้ และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรครับปากจะหาผู้มีความรู้มาขับเคลื่อนนโยบายของพรรคไปด้วยกัน ตามข้อเสนอของกลุ่มภาคอีสานตอนบนและภาคใต้ ส่วนจะเป็นใครขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกฯ การออกมาพูดก่อนหน้านั้น เพราะขาดคนเชื่อมโยงประสานงานด้านนโยบาย แต่วันนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว และไว้ใจที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเลือกคนที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง

“เราไม่ได้เรียกร้องให้ตัวเองเป็นรัฐมนตรี แต่เห็นว่าควรมีตัวแทนไปเป็นฝ่ายบริหารเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาและเห็นตรงกับพรรคว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะเราน้อยใจว่าไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ใหญ่ แต่แบกรับความหวังประชาชนไว้ เมื่อตอนที่หาเสียง แต่พรรคกลับเงียบ ซึ่งเชื่อว่าคงติดขัดในระบบการบริหารจัดการภายใน ที่เป็นพรรคใหม่ มีผู้บริหารหน้าใหม่ ไม่เข้าใจการบริหารจัดการแบบมาตรฐาน ทำให้พูดคุยเข้าใจกันน้อย เพราะหัวหน้าและผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพ แต่มีใจอยากทำงานเพื่อประชาชน” นายเอกราชกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image