เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะนำรายชื่อ ส.ส. 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประมาณ 30 คนที่เข้าข่ายมีหุ้นสื่อสารมวลชน ยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า เพื่อดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลจะยื่นตรวจสอบพรรคเพื่อไทยเรื่องการถือหุ้นสื่อนั้น เป็นสิทธิที่ทำได้ ไม่ว่ากัน ในส่วนของเพื่อไทย หลายๆท่านได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร และคนอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดมีเหตุผลชี้แจงได้ เข้าใจว่าถ้าไปถึงศาลรัฐธรรมนูญก็คงต้องไต่สวนพยานหลักฐาน เพราะส่วนใหญ่ข้อเท็จจริงไม่เหมือนกับที่ปรากฏตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ส่วนกรณีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เท่าที่ตนทราบ เคยหารือกันในกรณีบริษัทร้าง ไม่ได้ประกอบกิจการ เเต่ที่เป็นข่าวเหมือนว่ามีการถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก ก็คงต้องดูข้อเท็จจริง ส่วนว่าจะกระทบกับการที่จะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ก็ต้องดูข้อเท็จจริงและคงต้องดูแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญมาประกอบว่าจะมีแนวทางอย่างไร กรณีที่มีการร้องให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล