⦁…“ศึกเลือกตั้ง” นับหนึ่งจากวันที่ 24 มีนาคม จนปานนี้ล่วงเลยมาก็ปาเข้าไป 3 เดือนเต็ม แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังแต่งหล่อไม่แล้วเสร็จ ยังพายงัดกันไม่รู้จักจบ
⦁…คลอดออกมาแล้ว ก็ไม่แน่ว่ารูปพรรณสันฐานจะออกมาหล่อลากดิน หรือลูกเป็ดขี้เหร่ แต่เท่าที่จับอาการ น่าจะไปทาง “เกาะกง” เขมร มากกว่า “ลอนดอน-อังกฤษ”
⦁…3 เดือนแล้ว แต่ “ตู่ 2/1” ยังไม่นิ่ง พรรคร่วมไล่เขย่าขวดกันไม่หยุด ล่าสุดเป็นคิวทองของ “ชาติพัฒนา” ออกมาทวงสัญญา พร้อมยื่นคำขาด เสียงดังฟังชัด
⦁…ก็น่าเห็นใจ “ชพน.” มากมิใช่น้อยๆ ตอนส่งแกนนำ “พปชร.” ไปทำพิธีสู่ขอ เข้าร่วมหอลงโรง ตกปากรับคำกันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า แม้จะมี ส.ส.ในสังกัดแค่ 3 เสียง แต่ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยกัลยาณมิตร กล้าแสดงจุดยืน ว่าจะยืนข้างเดียวกับ “คสช.” จะตอบแทนบุญคุณประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยให้ 1 ที่นั่ง
⦁…แต่ไปๆ มาๆ มีแนวโน้มว่าจะ “โดนเบี้ยว” โทรติดต่อไปก็ไม่รับสาย ทั้งๆ ที่ว่าห้องเครื่องที่ทำให้เกิดโกลาหล มาจาก “พปชร.” เองที่แบ่งเค้กกันไม่ลงตัว เลยแก้เกมด้วยการดึงโควต้า 1 ที่นั่งคืนไปจาก “ชพน.” ซึ่งถือว่า “ไม่แฟร์”
⦁…เบี้ยวมาก็ต้องเบี้ยวกลับ เมื่อ “พปชร.” พลิ้วในข้อตกลงเดิมตามทฤษฎีของการเมือง “ชาติพัฒนา” ก็ต้องตอบโต้ ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงได้เช่นเดียวกัน ประกาศผาง พร้อมจะ “กลับข้าง” หรืออย่างน้อยก็ขอเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ”
⦁…อย่างไรก็ตาม มีข่าวคลุกวงในระบุว่า การจัดสรรตำแหน่งใน “ครม.ตู่ 2/1” มีการตั้งโจทย์ แบ่งพันธมิตรออกเป็น “3 จำพวก” แล้วเรียงลำดับไหล่ความสลักสำคัญ ไล่กันเป็นกลุ่มๆ ไป
⦁…“กลุ่มที่หนึ่ง” เกรดเอ “เพื่อนแท้” ซึ่งประกอบด้วยนักการเมืองน้อยใหญ่ที่กระโดดค้ำถ่อ มาร่วมวงไพบูลย์กัน “พรรค คสช.” ตั้งแต่ไก่โห่ จะเป็น “แมวสีอะไรก็ได้” ซึ่งได้แก่ “กลุ่มสามมิตร” ด้วยเหตุและผลดังกล่าว “บิ๊กเนม” ของกลุ่มได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า
⦁…เป็นต้นว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน ต้องออกได้นั่งแป้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะได้โควต้านั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นต้น
⦁…“กลุ่มที่สอง” ลดดีกรีลงมาหนึ่งระดับ ได้แก่พรรคการเมืองที่ไม่เข้าร่วม “พปชร.” แต่ประกาศเปิดตัวจะร่วมหัวจมท้ายกับ “พรรคทหาร” ฟอร์มรัฐบาลซึ่งประกอบด้วย “พรรคชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา-รวมพลังประชาชาติไทย”
⦁…และ “กลุ่มที่สาม” ระดับความสัมพันธ์-ความผูกพัน น้อยมากถึงน้อยที่สุด คือ พรรคการเมืองที่ตีกรรเชียงประกาศอยู่คนละขั้วกับ “พรรคทหาร” ช่วงโค้งหาเสียง ก่อนเลือกตั้ง แต่สุดท้ายแล้ว ได้ตัดสินใจมาเป็นแนวร่วม ประกอบด้วย “พรรคประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย”
⦁…ด้วยเหตุและปัจจัยดังกล่าว จึงถึงบางอ้อว่า “ไหง” หัวหน้ามุ้งต่างๆ ใน “พลังประชารัฐ” แม้จะโดนกระแสสังคมรุมสกัดหนัก แต่สุดท้ายก็ได้เป็นเสนาบดีกันถ้วนหน้า และรับประกันซ่อมฟรีว่า “พรรคสุวัจน์” พันธมิตรเบอร์ต้นๆ “กลุ่มที่สอง” ก็ต้องได้ตำแหน่งในนาทีสุดท้าย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่