| ที่มา | นิวส์รูมวิเคราะห์ |
|---|---|
| ผู้เขียน | วุฒิ สรา |
มีสุภาษิตอังกฤษที่ว่า “A People Deserves its Own Government” อาจารย์ “คึกฤทธิ์ ปราโมช” เคยแปลไว้ว่า “ประชาชนเป็นอย่างไรก็ได้รัฐบาลอย่างนั้น”
แต่อาจารย์ “คึกฤทธิ์” เห็นว่าสุภาษิตนี้ใช้ไม่ได้กับ “รัฐบาลไทย” และ “ประชาธิปไตย” แบบไทยๆ
หากถามประชาชน ไม่ว่าจะโพลสำนักไหน อยากได้รัฐบาล-รมต. ที่ “เก่ง-ดี-ซื่อสัตย์”
แต่ทว่าการจัดตั้งรัฐบาลของไทยในระบอบประชาธิปไตย มีข้อจำกัดมากมาย
การจัดวางตัว “รัฐมนตรี” ต้องคำนึงถึงการเฉลี่ยความพึงพอใจของกลุ่มก๊วนต่างๆ ในแต่ละพรรค และระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อประคองความเป็นเอกภาพให้นานที่สุด…เป็นปัจจัยหลัก
ส่วนคุณสมบัติด้านความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ ประวัติความเป็นมา..เป็นปัจจัยรองลงไป
ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว จึงทำให้ภาพหน้าตาของ “ครม.” มักจะมีเสียง “ยี้” มากกว่า “เย่”
ยิ่ง “ครม.ใหม่” ที่กำลังจะเผยโฉมออกมานี้ มาจากพรรคต่างๆ ถึง 19 พรรค หนำซ้ำยังมีเสียงปริ่มน้ำในสภา
จึงทำรัฐบาลชุดใหม่ เปรียบเสมือน “ปราสาททราย” ที่พร้อมจะล่มสลายได้ทุกเมื่อ
ด้วยว่า รัฐบาลอายุจะสั้น หลายฝ่ายจึงประเมินกันว่าบรรดา “เสนาบดี” ป้ายแดงทั้งหลาย จะรีบโชว์ฝีมือแสดงผลงานให้ปรากฏ หรือจะเร่งถอนทุนคืน พร้อมกำไร เพื่อตุนกระสุน เตรียมตัวเลือกตั้งใหม่
วิธีการหากระสุน มีหลากหลาย ทั้งแบบเบสิค เรียก 20-30% จากผู้รับเหมาโครงการต่างๆ
หรืออาจมีวิธีซับซ้อนหน่อย โดยเอาความเดือดร้อนของชาวบ้าน มาตั้งเป็นโจทย์บังหน้า แล้วออกมาตรการช่วยเหลือ
แต่เป็นมาตรการที่ซ่อนเงื่อนปม เอื้อให้กับพรรคพวกตัวเองแฝงเข้าไปกอบโกยงบประมาณจากมาตรการช่วยเหลือนั้น แล้วทอนเงินคืนมาให้
ยังมีอีกหลากหลายวิธี ที่จะหากระสุนตุนทั้งทางตรงและทางอ้อม
แต่ก็อยากให้บรรดา “รมต.” พึงสำเหนียกว่า ยุคนี้การตรวจสอบเข้มข้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่เพียงแค่ฝ่ายค้านที่เงื้อมดาบรอฟัน หากมีข้อพิรุธ
ภาคประชาชนในยุคสื่อโซเชียล ก็จะติดตามแทบทุกฝีก้าว ถ้ามีข้อสงสัย
ขนาดเมื่อก่อนสื่อโซเชียล ยังไม่แพร่หลายเหมือนปัจจุบัน แถมเสียงรัฐบาลยังแน่นปึ้ก แต่ “รมต.” และข้าราชการหลายคนที่สนองนโยบายโดยไม่ลืมหูลืมตา ก็ยังไม่รอด เข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ
บ้างบางคนก็ต้องเผ่นไปต่างประเทศ บางคนก็ยังต่อสู้คดีอยู่ในชั้นศาล
จึงอยากเตือนบรรดา รมต.หน้าใหม่ทั้งหลาย จะคิดจะทำอะไร ก็ให้นึกถึง “คุก” ไว้ด้วย
ที่โบราณเคยว่าไว้ “กรรมติดจรวด” นั้นอาจช้าไป ยุคนี้ “กรรมดิจิทัล” แล้ว
