“สุทิน” แจง ปมใช้ช่องกม.ร้องประธาน-รองประธาน จี้ บรรจุญัตติสอบที่มา ส.ว.
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายสุทิน คลังแสงส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ระบุญัตติการขอตั้งคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่งส.ว. กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาซึ่งท่านจะสรุป แจ้งพร้อมอธิบายเหตุผลให้เข้าใจภายในสัปดาห์หน้า พร้อมติงว่าฝ่ายค้านไม่ควรใช้วิธีข่มขู่ กดดัน ท่าน ว่า ตนขอเรียนว่า ตนและฝ่ายค้านมิได้มีเจตนาจะข่มขู่ท่านเพราะตระหนักดีว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ควรให้ความเคารพท่านหนึ่งจึงไม่อยากให้ท่านหรือผู้ใกล้ชิดมองอย่างนั้น อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าเรื่องที่พวกตนกำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง บรรทัดฐานทางสังคม ที่ประชาชนสนใจและมีการวิพากย์วิจารย์กันอย่างกว้างขวาง แต่ผู้เกี่ยวข้องปฏิเสธที่จะให้สังคมรับรู้ พวกตนในฐานะตัวแทนประชาชนจึงได้พยายามหาช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลเรื่องนี้ เราทำมาแล้วทุกช่องทางแต่ไม่เป็นผล จึงหวังพึ่งกลไกรัฐสภา เรายื่นญัตติเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 62 ตามข้อบังคับสภาผู้แทนฯกำหนดว่าอยู่ในดุลยพินิจของประธานสภาฯซึ่งประธานต้องแจ้งผลการพิจารณาว่าเป็นญัตติด่วนหรือไม่ภายใน 5 วัน และแจ้งการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระหรือไม่ภายใน 7 วัน พวกเราก็รอฟังผลการพิจารณาด้วยความสงบ ให้เกียรติท่านเป็นอย่างดี แต่เมื่อล่วงเลยเข้าวันที่ 9 ก็ยังไม่ได้รับการประสานแจ้งผลใดๆ แต่ได้รับทราบจากสื่อว่าท่านรองฯประธานสภาฯบอกว่าไม่สามารถบรรจุได้เพราะสภาฯไม่สามารถตรวจสอบคสช. พวกเราก็มาหารือใน 7 พรรคฝ่ายค้านว่า พวกเราไม่ได้รับความเป็นธรรมตามข้อบังคับเรื่องเขื่อนไขการพิจารณาเป็นเบื้องต้นแล้ว และหากเหตุผลการไม่บรรจุเป็นดั่งเช่นรองประธานสภาฯให้สัมภาษณ์จริง ก็เป็นความเห็นต่างกันในทางกฏหมายที่จะต้องหาข้อยุติให้ประชาชนได้ทราบและเป็นบรรทัดฐานทางสังคมต่อไป ทางสุดท้ายที่เหลือของพวกเราคือขอพึ่งกลไกกระบวนยุติธรรมคือ ตำรวจ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรม จึงมีความจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนดังกล่าวโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบกับตัวท่านประธาน และรองประธานในฐานะผู้ตัดสินใจเรื่องนี้
“พวกเราคาดว่าผลการวินิจฉัยที่จะเกิดคือคำตอบที่จะเป็นข้อยุติ ฉะนั้นการจะดำเนินคดีกับท่านมิใช่การข่มขู่ แต่เป็นความจำเป็นที่พวกเราต้องแสวงหาช่องทางหาคำตอบให้กับประชาชน ขอให้เห็นใจพวกเราและประชาชนบ้าง พวกเรารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมาหลายกรณีซ้ำแล้วซ้ำเล่า คราวนี้เมื่อเวลามันล่วงเลยตามกรอบข้อบังคับแล้วเราจะนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามหากท่านประธานท่านบอกว่าเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอยู่ พวกเราก็พร้อมจะรอฟัง และจะดำเนินการใดๆต่อไปก็จะเป็นหลังทราบข้อยุติแล้ว” นายสุทิน กล่าว
