เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ นปช. เดินทางมาร่วมงาน ดนตรีประชาธิปไตย 24 มิถุนา วันอะไร? ซึ่งจัดโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกชายฉกรรจ์รุมทำร้ายเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 17.35 น. นายจตุพรได้ขึ้นเวทีกล่าวถึงกรณีที่จ่านิวโดนลอบทำร้ายว่า เป็นเรื่องเกินกว่าที่ตนจะรับได้ การทำร้ายจ่านิวครั้งแรกจนกระทั่งนักเคลื่อนไหวคนอื่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นเอกชัย หงส์กังวาน หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง และนักกิจกรรมคนรุ่นใหม่ ตนเห็นว่านายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไม่มีปัญญาจับคนร้ายได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว ถ้าไม่มีน้ำยาก็ไม่ควรที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายจตุพร กล่าวว่า ลองคิดอย่างช้าๆว่า สมมุติว่ามีคนไปทำร้ายคนในครอบครัวท่านอย่างที่ทำกับจ่านิวท่านจะอยู่ในสภาพนี้ได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นผมเองก็เห็นว่าวันนี้คนไทยจะต้องไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างง่ายดาย ถ้ารัฐบาลไม่ทำการใดๆเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ผมจะเข้าใจว่าเป็นการให้ท้ายกัน เพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งแรกๆ แทนที่จะไปจับกุมคนร้าย แต่ผู้รับผิดชอบพูดว่า ‘ไปทำอะไรเข้าให้’ ดังนั้นผมเองอยากให้เสียงนี้ได้ยินไปยังนายกรัฐมนตรี ท่านจะต้องเจอกับผม จำไว้ ถ้าจับคนร้ายไม่ได้ อยู่กันดีๆไม่ชอบก็อย่าอยู่ดีกันเลย เพราะว่าการทำร้ายนักกิจกรรมเป็นความเลวร้าย ปี 2535 ปีที่จ่านิวเกิดซึ่งผมเองก็เป็นผู้นำนักศึกษาเคลื่อนไหวอยู่ เผด็จการ รสช.ก็ยังไม่มีพฤติกรรมคุกคามนิสิตนักศึกษา วันนี้คิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าต้องการจะปรามให้คนไม่กล้าลุกขึ้นสู้ แต่เขาลืมนึกไปว่าประวัติศาสตร์การต่อสู้ทุกหนแห่ง จะตายกี่ศพก็ไม่หยุดยั้งพลังของประชาชนได้
“เพราะฉะนั้นวันนี้ผมมาต้องการจะแสดงตัวในฐานะคนไทยแม้ว่าเราบางคนอาจจะคิดไม่เหมือนกัน แต่ในฐานะคนไทยจะยอมเรื่องนี้ให้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ ฮ่องกงเพียงแค่เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนยังไม่ตีหัวใครสักคน คนฮ่องกงก็ยังออกมาเต็มถนนหลายล้านคน วันนี้ไม่ใช่เรื่องการตีหัวจ่านิวคนเดียว แต่การตีหัวจ่านิวเหมือนกับการตีหัวคนไทยทั้งชาติว่าบัดนี้ ประเทศนี้ หาขื่อหาแปลไม่ได้อีกต่อไป” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ขอเรียนให้นายกรัฐมนตรีจับคนร้ายให้ได้ เพราะถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งในแวดวงยุทธภพก็รู้ว่าใครเป็นใครที่จับไม่ได้เพราะเขารู้ว่าใครเป็นใคร วิธีแบบนี้มีไม่กี่ชุดในประเทศไทย แต่ยุทธภพนี้เขาก็รู้กันหมด เพียงแต่นายกรัฐมนตรีจะกล้าหรือไม่ เพราะถ้านายกรัฐมนตรียังเพิกฉยต่อกรณีนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าจะอยู่ได้สัก 4 เดือนแต่เดือนแรกก็รอดยากแล้วจำปากผมไว้
“วันนี้ผมต้องการให้เลิกการทำรายกัน เราผ่านเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิตมามากมาย ถ้าเรายังเชื่อว่าวันนี้ยังไม่เกิดกับเรา ในวันหน้าก็จะเกิดขึ้นกับเรา กับพี่น้องเรา เรื่องนี้ยอมให้ผ่านไปไม่ได้ วันนี้ผมแสดงตนว่าผมรับไม่ได้ และถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่รับผิดชอบ พบกับจตุพร พรหมพันธุ์ ถูกคู่แน่นอน” นายจตุพร กล่าว
