เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์ข้อความ เรื่อง “ภาษาที่ซ่อนอยู่ในการใช้ความรุนแรง” โดยมีรายละเอียดคือ
ผมพยายามเข้าใจภาษาที่ซ่อนอยู่ในการกระทำของการใช้ความรุนแรง กรณี #จ่านิว เขาถูกทำร้ายก่อนที่จะมีกิจกรรมทางการเมืองในเย็นของอีกวันหนึ่ง
คำถามคือ การลงมือครั้งนี้เพื่อที่จะยุติกิจกรรมใช่หรือไม่ ?
คำตอบคือ ใช่ และ ไม่ใช่
คือถ้าลงมือแล้วกิจกรรมนี้ยุติลงก็โอเค แต่ถ้ากิจกรรมยังคงดำเนินการต่อมันก็ไม่มีอะไร ลองคิดดูว่าคนที่แห่ไปร่วมงานเมื่อคืนเยอะล้นออกมาข้างนอก หากเป้าหมายของการทำร้ายจ่านิวคือการยุติกิจกรรมแต่ผลดันออกมาตรงกันข้าม ทำให้กิจกรรมนี้กลายเป็นกิจกรรมที่มีความหมายและได้รับความสนใจในวงกว้าง หากผู้สั่งการมี KPI ก็บ่งชี้ได้ว่าล้มเหลว
หรือว่าการทำร้ายจ่านิว ไม่เกี่ยวกับกิจกรรมในวันรุ่งขึ้นที่อนุสรณ์สถานฯ แต่เป็นส่งใบเสร็จเก็บค่าใช้จ่ายก่อนที่จ่านิวจะบินไปศึกษาต่อในต่างประเทศ คือ เช็กบิลตั้งแต่จ่านิวเคลื่อนไหวหลัง รปห กันเลยทีเดียว
อาวุธที่ใช้มีข้อน่าสังเกตคือ ชาย 4 คนแค่คนละหมัดโยนใส่จ่านิวก็ล้มแล้ว ทำไมต้องใช้ไม้เบสบอล สิ่งนี้สะท้อนราคาบิลที่เรียกเก็บ และมีข้อสังเกตว่ากิจกรรมที่ถูกลอบทำร้ายตั้งแต่เอกชัย ฟอร์ด จนถึงจ่านิว หากเอา Timeline มาวางจะเห็นถึงระดับการใช้ความรุนแรงที่ถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น
ภายใต้ความนิยามของความไม่สงบ การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของนักกิจกรรมยังอยู่ภายใต้กฎหมาย เปิดเผย ขณะเดียวกันผู้ที่ลอบทำร้ายสวมหมวกกันน็อก ปกปิดใบหน้า และใช้ความรุนแรงในกรอบที่กฎหมายไม่อนุญาต
สุดท้ายขอตั้งคำถามว่า ใครกันแน่ที่สร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นในประเทศ